COVID-19

2 ฉากทัศน์ใหม่ สถานการณ์ดีต่อเนื่อง ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มแค่ 22 ราย/สัปดาห์

สธ.ทำ 2 ฉากทัศน์ใหม่ สถานการณ์ดีต่อเนื่อง ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มแค่ 22 รายต่อสัปดาห์ ในปลายเดือนมิ.ย. หากคุมไม่ดี ปล่อย 1 คนไปชุมนุม ผู้ป่วยเพิ่มอีก 2,419 ราย มุ่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ในชุมชน เจาะภูเก็ตต่อเนื่อง พัทยา และกรุงเทพ เน้นย่านบางเขน-คลองเตย 

S 46202903

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)  ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ติดเชื้อ เป็นฉากทัศน์ใหม่เข้าที่ประชุมศบควันนี้ เป็นตัวเลขการคาดการณ์ติดเชื้อ 2 ฉากทัศน์

  • ฉากทัศน์ 1 ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ที่ผู้ติดเชื้อของเราลดลง ดังนั้น 1 ราย แพร่เชื้อได้ 1.12  ราย อัตราเกิดผู้ติดเชื้อใหม่ ปลายเดือนมิถุนายน จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เหลือแค่สัปดาห์ละ 22 ราย จากเดิมมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 200 ราย
  • ฉากทัศน์ 2  หากคุมกันไม่ดี 1 คน ไปชุมนุมกัน ไปเจอกัน 1 ราย จะแพร่เชื้อได้ 1.8 ราย เท่ากับจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 22-28 เมษายน  336 ราย และจะเพิ่มต่อเนื่องอีก 2,419 ราย ในปลายเดือนมิถุนายน

ทั้ง 2 ฉากทัศน์ เพื่อนำมาใช้ในการวางแผน และหากเราไม่อยากเห็นภาพ ตัวเลข 1 คนแพร่ได้ 1.8 คน จะทำอย่างไร โดยกระทรวงสาธารณสุขจะมุ่งเน้นการค้นหาผู้ติดเชื่อในชุมชน 4 แนวทาง  คือ

1.มาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก เพื่อลดจำนวนแพร่เชื้อในชุมชน

2.เน้นค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ในประชากรกลุ่มเสี่ยง และต้องเจาะกลุ่มผู้ใช้แรงงาน คล้ายสิงคโปร์ ซึ่งมีกรณีศึกษามาแล้ว

3.ค้นหาผู้ป่วยในพื้นที่ที่ระบาดต่อเนื่อง ช่น กรุงเทพ ภูเก็ต และชลบุรี เป็นต้น

4. ลดการติดเชื้อในรพ.

Map Non infection03

สำหรับการผ่อนคลายมาตรการนั้น หน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการจะนำไปปรึกษาหารือ และเสนอขึ้นมา ว่าจะเป็นอย่างไร โดยที่ประชุมศบค.ให้ไปดูแลกลุ่มเฉพาะ และดูสถานที่ ที่ทำแล้วปลอดภัย ส่วนจังหวัดไหน ไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อก็ต้องผ่อนคลาย รวมถึงต้องศึกษามาตรการของต่างประเทศ ว่ามีขั้นตอนอย่างไร เพื่อเรียนรู้ และปรับใช้

ทั้งนี้ต้องจัดสมดุลให้เหมาะสม กับปัญหา ทั้งการระบาดของโรค และปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ให้เดินไปด้วยกันอย่างปลอดภัย จะทำด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ กรณีของภาคเศรษฐกิจ ต้องใช้ชุดข้อมูล เอาฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการที่เคยแยก มาบูรณาการ และใช้ข้อมูลชุดเดียวกันในการแก้ปัญหา

ANN 4573

ทางด้าน ศูนยแถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ระบุถึงการผ่อนคลายการล็อคดาวน์ ว่า มุมมองกระทรวง มีกฎขององค์การอนามัยโลกอยู่ 6 เรื่องในเรื่องการคลายกฎ

แต่เราต้องนำประสบการณ์จากญี่ปุ่น หรือ สิงคโปร์ หลังคลายล็อคมาดูด้วย เพราะ 2 ประเทศ มีคลื่นการติดเชื้อลูกใหม่เกิดขึ้น และสาหัสพอสมควร ล่าสุด (20 เม.ย.) ญี่ปุ่นกลับมามีผู้ป่วยเพิ่ม 501 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 10,787 ราย ส่วนสิงคโปร์ มีผู้ป่วยเพิ่ม 596 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 6,588 ราย 

ดังนั้นเราต้องคิดให้ดี ชัดเจน และน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกันประชาชนก็ต้องปรับตัว เป็น New Normal ไปสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ต่อไป  ได้แก่ ไปที่ชุมชนต้องใส่หน้ากาก การล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงไปชุมชนแออัด หรือที่ที่คนอยู่รวมกันมากๆ กินร้อนช้อนกลางส่วนตัว และเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 2 เมตร การทำงานที่บ้าน สังคมไร้เงินสด

ส่วนการปลดล็อคจะเริ่ม 1 พฤษภาคมหรือไม่ ต้องคอยการตัดสินใจของศบค. ที่ต้องประมวลภาพทั้งหมดทั้งด้านการแพทย์ สาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม

report04 6

ขณะเดียวกันทางด้านการสาธารณสุข ก็มีการค้นหาผู้ป่วยต่อไป ด้วยวิธี Active Case Finding ซึ่งเราเริ่มที่ภูเก็ตเป็นที่แรก เพราะมีการระบาดของโควิด 19 ต่อเนื่อง 2 เดือน แต่ตอนนี้สามารถคุมสถานการณ์ได้แล้ว ซึ่งจากการค้นหาผู้ป่วยด้วยวิธีการดังกล่าวที่ภูเก็ตเราพบว่า พบผลบวกจากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) 4.65% ขณะที่ตรวจจากผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง พบผลบวก 6.28% ตอกย้ำว่า การค้นหาผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง จะพบค่าผลบวกในสัดส่วนที่มากขึ้น ถือว่าให้ผลคุ้มค่า นอกจากที่ภูเก็ตแล้ว ก็มีการทำที่อื่นด้วย ได้แก่ พัทยา และกรุงเทพ ที่ บางเขน และคลองเตย

 

Avatar photo