“กฟน.” แจงบิลค่าไฟฟ้าพุ่งกระฉูดเพราะ 2 ปัจจัยหลัก คือ “ค่า FT” และ “อัตราก้าวหน้า” ทั้งนี้ ต้องรอมติประชุมร่วมวันนี้ (20 เม.ย.) ก่อน หากมีนโยบายให้ลดค่าไฟ ก็พร้อมปฏิบัติตาม
จากกรณีที่โลกออนไลน์ร้องเรียนว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา บิลค่าไฟฟ้าแพงกว่าปกติอย่างมาก คิดเป็น 2- 3 เท่าตัวนั้น
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะโฆษก กฟน. เปิดเผยว่า สาเหตุที่ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นมีอยู่ 2 ปัจจุบัน ปัจจัยแรก คือ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าส่วนที่ลอยตัว (Float Time :FT) เช่น ค่าเชื้อเพลิง ซึ่งการไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้
โดยกฏหมายจะระบุให้มีการประกาศอัตรา FT ล่วงหน้าทุกๆ 4 – 5 เดือน ซึ่งล่าสุดเพิ่งประกาศอัตรา FT เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 11 สตางค์ ซึ่ง กฟน. ก็จะใช้อัตรา FT ดังกล่าวคำนวณค่าไฟในเดือนเมษายน – สิงหาคม 2563 ดังนั้นแม้ช่วงนี้ราคาน้ำมันจะถูกลง แต่อัตราค่า FT ไม่ได้ลดลงทันทีตามราคาน้ำมัน
ปัจจัยที่ 2 คือ การคิดอัตราค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้า ถ้าประชาชนใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ค่าไฟต่อหน่วยก็จะแพงมากขึ้น คือ 35 หน่วยแรก เหมารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 85.21 บาท, 115 หน่วยต่อไป หน่วยละ 1.1236 บาท, 250 หน่วยต่อไป หน่วยละ 2.1329 บาท และส่วนที่เกินกว่า 400 หน่วย หน่วยละ 2.4226 บาท
สาเหตุทั้ง 2 กรณี เป็นสาเหตุหลัก แต่มีสาเหตุอื่นๆ เช่น การใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุด หรือ ความร้อนของอากาศ และอื่นๆ
“กฟน. ตระหนักดี ถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่สามารถประกาศลดค่าใช้ไฟฟ้าได้ด้วยตนเอง ต้องรอมติจาก คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หากการประชุมในวันนี้ (20 เม.ย) มีนโยบายลดการจัดเก็บค่าใช้ไฟฟ้าก็ยินดีและพร้อมดำเนินการทันที” นายจาตุรงค์กล่าว
ที่มา Business Today
- ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องสอบค่าไฟ ‘แพงมหาโหด’ แนะลด50% ทุกครัวเรือน
- เปิด 5 สาเหตุ ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันไฟฟ้า ทำไมไม่ได้เงินคืน!!
- เพิ่ม 2 มาตรการค่าไฟฟ้า 3 เดือน ลดภาระประชาชน 9,375 ล้าน