เปิดไทม์ไลน์ 111 วัน การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จากจีนสู่ไทย สรุปยอดปฏิบัติการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสู้ไวรัส จนยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เหลือหลักสิบ สุดท้ายจบลงตรงไหน อยู่ที่ ความร่วมมือของคนไทยทุกคน!
จากวันแรกของการอุบัติการณ์ “ไวรัสโควิด -19” ชื่อที่ไม่คุ้นหูของชาวโลก มาถึงวันนี้เพียง 111 วัน ที่ไวรัสไร้ตัวตนปรากฎให้มนุษย์รู้จัก และได้กลายเป็นมหันตภัยที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 160,754 คนทั่วโลก ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ยังไม่มีใครบอกได้ถึงจุดจบของมัน
จากต้นเดือนธันวาคม 2562 ที่อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เริ่มพบผู้ป่วยปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาไม่นาน เมื่อผู้ป่วยเริ่มมีกลุ่มก้อนใหญ่ จีนทำการศึกษาอย่างเข้มข้น จนแน่ชัดว่าเชื้อโรคตัวใหม่ได้บังเกิดขึ้นแล้วบนโลกใบนี้ โดยประกาศต่อชาวโลก เมื่อ 11 มกราคม 2563 จากนั้นเพียง 2 วัน ไทยก็พบผู้ป่วยรายแรก เหตุด้วย นักท่องเที่ยวจีนที่ไหลบ่ามาเที่ยว เมืองไทยหลายล้านคนต่อปี
จนมาวันนี้ไทยพบผู้ป่วยแล้ว 2,765 ราย เสียชีวิต 47 ราย เมื่อเดินมาถึง 111 วัน วันที่โรคนี้ เป็นที่รู้จักของคนไทย และสร้างความหวาดผวา จนหลายคนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะติดง่ายดาย ไม่รู้ตัว และไม่มีอาการในช่วงเริ่มแรก แต่อานุภาพที่เชื้อร้ายนี้ กัดกินปอดอย่างรวดเร็ว วันนี้คนไทยเรียนรู้ และรู้จัก “โควิด-19” ราวเป็นญาติสนิท
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้บันทึกไทมไลน์ของไวรัสชนิดนี้ เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้กับทุกภาคส่วนแม้ในวงการแพทย์ และตอกย้ำ ไม่ให้คนไทยลืมว่า เราผ่านจุดสตาร์ท มาถึงวันที่ผู้ป่วยรายใหม่พุ่งขึ้นสูงสุด 188 รายในวันเดียว และมาถึงวันที่ผู้ป่วยรายใหม่ ลดระดับมาเป็นหลักสิบ เหลือ 32 ราย ในวันนี้ (19 เม.ย.)
เพื่อให้เห็นปรากฎการณ์ และการจัดการของประเทศ ให้ภาคภูมิใจในระบบสาธารณสุขของประเทศเล็กอย่าง “ไทยแลนด์” จากประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับต้นๆของโลก 111 ผ่านมา หล่นกรอบสู่อันดับที่ 53 จากมาตรการต่างๆที่ช่วยชะลอการแพร่ระบาด จนพบผู้ป่วยน้อยลงตามลำดับ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย การใส่หน้ากาก กลายเป็นกิจวัตรของผู้คน การเว้นระยะห่าง การล้างมือบ่อยๆ และการหลีกเลี่ยงไปที่แออัด การระม้ดระวังอาหาาการกิน กำลังเป็น New Normal ของสังคมไทย
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า ไทม์ไลน์ 111 วันที่ไทยต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บอกให้รู้ได้ว่า การเสนอนโยบายสำคัญๆ ในแต่ละขั้นตอน เพื่อหยุดการแพร่ระบาด มาจากหลักฐานทางวิชาการเชื่อถือได้ ไม่ใช่หลักฐานเลื่อนลอย ที่ไปชี้นำมาตรการ ซึ่งมีผลกะทบทางเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมาก่อน เราออกแนวทางการรักษาป้องกันต่างๆ จะมีการวางแผนล่วงหน้า ทำก่อนสถานการณ์เสมอ และดำเนินการอย่างรัดกุม และขอย้ำว่ามาตรการแต่ละประเทศแตกต่างกันไป เพราะต้นทุนไม่เหมือนกัน ของประเทศไทยใช้มาตรการผสมผสาน เลียนแบบไม่ได้ แต่ก็หยุดการแพร่ระบาดได้อย่างประสบผลสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มาตรการบังคับต่างๆอาจหย่อนได้ แต่มาตรการส่วนบุคคลหย่อนไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงไปสถานที่แออัด หรือที่ที่มีคนไอจาม ใส่หน้ากากผ้าทุกครั้ง เมื่อออกจากบ้าน ล้างมือ่อยๆ ไม่เอามือมาโดนหน้าโดนตา มาตรการเหล่านี้ต้องทำต่อไปอย่างเข้มข้น เหตุผลเพราะ โอกาสกำจัดโรคนี้ออกไป จากประเทศไทยไม่สูง เพียงแต่เราเปิดสถานที่ต่างๆ เพื่อให้กิจการต่างๆดำเนินไปได้ เราก็ยังต้องช่วยกันกดตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ต่ำลงต่อไป
- ‘หมอแก้ว’ ประเมิน จังหวัดไม่พบ ผู้ป่วยรายใหม่รอบ 14 วัน มีโอกาส คลายล็อคดาวน์ โควิด-19
- ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 32 ราย พบในกทม.ถึง 24 ราย ขอคนไทยรักษาระยะห่างต่อ ลดตัวเลขผู้ป่วยลงอีก
- ข่าวดีไร้ผู้เสียชีวิต 2 วันซ้อน!! ผู้ติดเชื้อ ‘โควิด-19’ วันนี้ 19 เม.ย. เพิ่ม 32 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 2,765 ราย
