เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ www.thaienquirer.com ตีพิมพ์บทความโดยใช้ชื่อว่า “High-priced ‘public strategy firm’ once hired by Paul Manafort defends Thai government’s coronavirus response” โดยมีรายละเอียดว่า เมอคิวรี แอลแอลซี (Mercury LLC) ซึ่งเป็นบริษัทด้านกลยุทธ์สื่อชั้นนำ ได้ส่งจดหมายข่าวออกมา เพื่อปกป้องวิธีการรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ของรัฐบาลไทย
เมอคิวรี ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐ และกรุงลอนดอน ของอังกฤษ ระบุในจดหมายข่าวที่ออกมาว่า รัฐบาลไทยประสบความสำเร็จ สามารถชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศได้
Thai Enquirer บอกว่าจดหมายข่าวที่ส่งมาทางอีเมล โดยอเล็กซ์ วอล์กเกอร์ ผู้อำนวยการในกรุงลอนดอน ของเมอคิวรี มีเรื่องประหลาดๆ อยู่ เช่นการบอกว่า รัฐบาลไทยสามารถรักษาอัตราการติดเชื้อไวรัสไว้ในระดับต่ำ ผ่านการใช้มาตรการที่ผสมผสานกัน ทั้งมาตรการจากบนลงล่างของรัฐบาล และสร้างการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จากส่วนพื้นฐานของสังคม ทั้งยังบอกด้วยว่า เรื่องที่น่าประหลาดที่สุด คือ ข้อความที่บอกว่า “มีการตรวจหาเชื้อในระดับสูง”
นอกจากนี้ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร เมอคิวรี ยังได้เปรียบเทียบวิธีการรับมือไวรัสโควิด-19 ของไทย เข้ากับสหราชอาณาจักรด้วย
“ไทยมีความสามารถที่จะดำเนินการตรวจสอบหาเชื้อได้มากถึง 20,000 คนต่อวันทั่วประเทศ ซึ่งมากกว่าเพดานสูงสุดของสหราชอาณาจักร ที่ดำเนินการตรวจหาเชื้อรายวันได้ 10,000 คน อย่างมาก”
Thai Enquirer ชี้ว่า ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลเพิ่งจะเปิดเผยว่า ไม่ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อในวงกว้าง เพราะเป็นวิธีที่ไม่คุ้มต้นทุน ทั้งยังกล่าวปกป้องแผนการเจาะตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเจาะจง ที่ใช้อยู่ในขณะนี้ว่า มีประสิทธิภาพมากพอที่จะต่อสู้กับการระบาดของไวรัส
สถิติจากทางรัฐบาลไทย ยังแสดงให้เห็นว่า ไทยมีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียง 1,079 คนต่อประชากร 1 ล้านคนเท่านั้น เทียบกับสหราชอาณาจักร ที่มีการตรวจสอบราว 2,884 คนต่อประชากร 1 ล้านคน
ข้อมูลยังแสดงให้เห็นด้วยว่า นับแต่ที่เริ่มการระบาดของไวรัสมานั้น ไทยดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปเพียง 71,860 รายเท่านั้น แม้จะมีความสามารถในการตรวจสอบได้มากถึงวันละ 20,000 คนก็ตาม ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งเริ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ช้ากว่าไทย ดำเนินการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 195,535 คน
รายงานข่าวระบุว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ปฏิเสธถึงเรื่องการว่าจ้างเมอคิวรี เข้ามาช่วยปกป้องรัฐบาล โดยบอกว่า จะไม่มีการใช้จ่ายเงินรัฐไปกับเรื่องแบบนี้
เช่นเดียวกับ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันกับ Thai Enquirer ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้ว่าจ้างบริษัทดังกล่าว และว่า บริษัทรายนี้ไม่ใช่กลุ่มต่างชาติเพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ชื่นชมต่อการรับมือกับการระบาดของไทย
ทั้งนี้ เมอคิวรี เป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ชื่อดัง ที่ได้ชื่อว่ามีราคาแพง มีลูกค้าอยู่ทั่วโลก รวมถึง พรรคการเมืองต่างๆ ในแอฟริกา และลาตินอเมริกา รวมถึง “พอล มานาฟอร์ท” อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องโทษจำคุกอยู่ ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ เคยรายงานไว้ว่า มานาฟอร์ท จ้างเมอคิวรี มาช่วยปกป้องอดีตประธานาธิบดียูเครน ที่สนับสนุนรัสเซีย จากประชาชน และสื่อในยูเครน
Thai Enquirer ทิ้งท้ายไว้ว่า ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันว่า ใครเป็นผู้ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ที่มีราคาแพงรายนี้ และว่า ถ้าหากรัฐบาลเป็นผู้ว่าจ้าง ก็จะเกิดคำถามตามมาอีกว่า ทำไมต้องจ่ายเงินเพื่อว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังหดตัว และรัฐบาลกำลังพยายามหาเงินสำหรับการใช้จ่ายในมาตรการเยียวยา และการช่วยเหลือต่างๆ
- รอก่อน!! ยังไม่เคาะ ปลดล็อกสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 พฤษภาคม
- ยุคโควิด-19 คนอยากรู้ ‘สถิติ-ข้อมูล’ การระบาดมากที่สุด
- วิกฤติโควิดฉุดความต้องการใช้พลังงานดิ่ง!! ทำยอดใช้ดีเซลร่วง 12%
