ศบค.เผยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 32 ราย พบในเขตกทม.ถึง 24 ราย ส่วนคนไทยกลับจากต่างประเทศ ยังป่วยต่อเนื่องอีก 4 ราย กลับจากอินโด ป่วยอีก 1 รวมป่วย 62 ราย ส่วนกลับจากมาเลย์ ให้ทยอยเข้ามา ขอคนไทยช่วยกันรักษาระยะห่างให้ได้มากกว่า 90% กดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลงอีก พร้อมขอผู้บริจาคสิ่งของ ประสานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ช่วยจัดลำดับคิว ลดการแพร่เชื้อโรค
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อวันนี้ (19 เม.ย.) รวม 32 ราย รวมยอดสะสม 2,765 ราย มีผู้ป่วยรักษาหาย กลับบ้าน 141 ราย รวมยอดผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 1,928 ราย ยังอยู่รพ. 790 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดสะสมคงเดิมที่ 47 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ เป็นผู้ป่วยสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย
ผู้ป่วยรายจังหวัดใน 68 จังหวัดสะสมสูงสุด ยังอยู่ที่กรุงเทพ 1,425 ราย เฉพาะวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 24 ราย รองลงมาเป็น ภูเก็ต 192 ราย นนทบุรี 150 ราย ส่วนผู้ป่วยต่อแสนประชากร สูงสุดอยู่ที่ภูเก็ต 46.44 กรุงเทพ 25.13 ยะลา 18.55
ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 14 วัน เพิ่มอีก 4 จังหวัด เป็น 33 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยยังคงเป็น 9 จังหวัดเช่นเดิม อย่าไรก็ตามพบว่า 3 จังหวัดชายแดนใต้มีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้มีกลุ่มคนที่อยู่ใน State Quarantine ป่วยเพิ่ม 4 ราย มาจากสหรัฐ 1 ราย อังกฤษ 2 ราย และอินโดนิเซีย 1 ราย รวมกลับจากอินโดนิเซีย ป่วยแล้ว 62 ราย
โดยวันนี้มีคนไทย เดินทางโดยเครื่องบิน จากเนเธอร์แลนด์ 27 ราย บาห์เรน 74 ราย และ สหรัฐ 162 ส่วนคนไทยในมาเลเซีย ที่จะเข้ามายังไทยตามแนวชายแดน ก็ยังมีอีก เพราะมีคนไทยไปทำงานที่นั่นถึง 7,000 ราย ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ ศบค.ได้ปรึกษาพูดคุย พบว่า การลงทะเบียนรับคนไทยจากมาเลเซีย รับได้ 350 ราย ผ่าน 5 ด้านชายแดนทางใต้ โดยด่านใหญ่รับได้วันละ 100 ราย ด่านเล็ก 50 ราย วันที่ 18-30 เมษายน ลงทะเบียนไว้ 2,548 ราย กระจายมา 18-26 เมษายน
ส่วนวันท้ายๆ คือ วันที่ 26-29 เมษายนเข้ามาน้อย จึงเห็นว่าให้ทยอยเข้ามา ไม่ต้องกระจุกตัว เพื่อให้ภาครัฐจัดคิวได้ และขณะนี้สถานทูต ก็มีอาสาสมัครเป็นคนไทย และองค์กรต่างๆ ได้นำถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้งไปให้ เพราะหลายคนอยู่ที่ตั้งได้ นายจ้างให้พักต่อได้
ทางด้านการผ่อนคลายมาตรการนั้น 1 พฤษภาคมจะเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้บอกว่าจะยุติเคอร์ฟิว หรือ จะขยายต่อ ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป ให้มากกว่า 90 % ถึงจะกดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ลดลงอีก เพราะระยะหลัง เรามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 หรือ 30 ราย ซึ่งยังไม่ดีเพียงพอ ต้องมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 10 ราย ให้ได้ การตึง หรือหย่อนมาตรการ เป็นการบริหารสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน
“ตอนนี้ ขอให้สังสัยไว้ก่อนว่า ทุกคนมีโอกาสแพร่เชื้อ จึงยังตอบไม่ได้ ว่าหลังหมดระยะเคอร์ฟิว วันที่ 1 พฤษาคมจะเป็นอย่างไร วันนี้ขอให้ทุกคน ไปในทิศทางเดียวกัน และต้องเป็น New Normal ดูจากบางประเทศ เพิ่งจะมายอมรับการใส่หน้ากากเมื่อมีคนตายแสนคนแล้ว แต่เรายอมรับตั้งแต่ต้น ทำให้มีวันนี้ วันที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง “
นพ.ทวีศิลป์ ฝากถึง การรับของแจก ว่าเราต้องจัดสมดุลให้ดี ระหว่างประชาชนที่เดือดร้อน ปรากฎการณ์เราเห็น ก็ชื่นใจ ทุกท่านทำดีแล้ว ในเรื่องใจที่เป็นกุศล และมีจิตเมตตา แต่เติมลงไปสักนิด ประสานเพิ่มเติมหน่วยงานของรัฐ เชื่อมโยกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ มีการลำดับการรับขอให้ดี ให้ชุมนุมให้น้อยที่สุด หรือมีระยะห่าง ทุกอย่างจะได้เรียบร้อย คนรับ และคนให้มีความรู้สึกดี คนดูห่างๆ ก็รู้สึกดี จากการจัดระบบที่ดี และมั่นใจได้ว่า จะไม่ได้มีส่วน ทำให้เชื้อแพร่กระจายออกไป อย่างที่เราต้องการ เรียกว่า “อิ่มเอมคนให้ สุขใจคนรับ”
ทางด้านกรณียังมีชาวบ้านต่อต้านการจัดบางพื้นที่เป็น State Quarantine ว่ามีบางโรงแรมเสนอตัว แต่มีความไม่พอใจของชาวบ้าน คิดว่าจะนำโรคมาติด และต้องถอนตัวออกไป เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ขอย้ำว่าการนำคนไป State Quarantine ต้องผ่านการคัดกรอง ถ้าป่วยนำเข้ารพ. ไม่ป่วยถึงมา State Quarantine
และยังมีกระบวนการประเมินโรงแรมนั้นๆอีก 5 ด้าน เช่น ด้านวิศวกรรม ความพร้อมของบุคลากร วัสดุอุปกรณ์สำนังกาน เป็นต้น เป้าหมาย เพื่อทำให้เขาหายจากโรค หากป่วยระหว่างอยู่ State Quarantine ก็สามารถตรวจได้เร็ว และเข้ารพ.ได้เร็ว หากพี่น้องรับฟัง และรับทราบ จะไม่กลัว เราจะสู้ไปด้วยกัน
” โควิด-19 เป็นการเจ็บป่วยทางกาย จิตใจก็ต้องดูแลด้วย แม้ป่วยกาย แต่ใจต้องดูแลกัน แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน “
- ‘บิ๊กตู่’ เยี่ยมให้กำลังใจ ‘บุคลากร’ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์
- ศบค.ขอประชาชนร่วมมือ ป้องกันโควิด-19 ต่อเนื่อง สธ.ย้ำต้องระวัง! แพร่ระบาดรอบ 2
- ‘104 คนไทย’ กลับประเทศผ่านด่านสะเดา พบ 13 รายไข้สูงส่งเข้าโรงพยาบาล
