The Bangkok Insight

‘หมอช้าง’ เปิดดวงเมือง เมษายนนี้ เรื่องร้ายยังแรง!! พ้นสิ้นเดือนเคราะห์ร้ายจางลง

สงกรานต์ถือว่าเป็นปีใหม่ของชาวไทย ต้อนรับสิ่งใหม่ๆด้วยการเตรียมกายและใจให้พร้อมลุยงานกันตลอดทั้งปี ล่าสุดหมอดูคนดัง ‘อ.ช้าง-ทศพร ศรีตุลา’ ได้มา เปิดดวงเมือง ฝ่า ‘โควิด-19’ กับ 2 พิธีกรคนเก่ง ดร.อั๋น ภูวนาท และ ซานิ นิภาภรณ์ ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ กับข่าวดีๆให้พวกเราได้ยิ้มออกกันบ้าง

อ.ช้าง: ครั้งที่แล้วมาบอกข่าวร้าย ช่วงตรุษจีนเราเคยพูดในรายการว่าเดือนที่แรงมาก คือเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมษายนเดือนนี้ นางสงกรานต์ใหม่ก็ยังแรงอยู่นะ แต่ต้องย้ำว่าอย่าไปคิดถึงเรื่องโควิดอย่างเดียวนะ พูดถึงภาพรวมทั้งหมด นอกจากโรคระบาด แล้วเนี่ย เชิงภัยธรรมชาติก็ยังแรงอยู่ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พูดถึงทั้งโลกและทั้งเมืองไทยด้วย เหมือนมีเรื่องมาซ้ำเติมให้หนักขึ้น

หมอช้าง 4

เดือนเมษาคือเดือนที่พระอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งเข้าไปแล้วตั้งแต่ 13 เมษายนที่ผ่านมา นางสงกรานต์ใหม่ คือ นางโคราคะเทวี คือช่วงนี้เป็น ช่วงที่ธาตุไฟแรง เขาถึงให้เป็นฤดูร้อน เป็นสงกรานต์ ธาตุไฟมันแรงก็จะยิ่งส่งผลให้ภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว ให้เราสังเกตข่าวในเดือนเมษายน มันจะมีเรื่องที่ไม่ใช่โรคระบาด มีเรื่องอื่นๆเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ที่บอก ข่าวดีก็คือว่า มันแรงคือถ้าพีคสุดน่าจะเป็นเดือนนี้

คนทั่วไปจะถามว่า เมื่อไหร่มันจะสิ้นสุดสักที เหตุการณ์ทั้งหลายนี้?

อ.ช้าง: ถ้าถามในทางดวงก็พูดยาก เพราะเราก็ไม่ทายว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ ถ้าเรามาทายตอนจบก็ลำบาก แต่ว่าถ้าในทางทฤษฎีถ้าถามว่า ช่วงไหนแรงก็คือ มีนาคมแรง เมษายนแรงต่อเนื่อง หมดจากเมษายนปุ๊บเนี่ย พฤษภาคม มิถุนายน ไม่ค่อยได้มีดวงดาวอะไรหนักๆเปลี่ยน คราวนี้มันขึ้นอยู่กับว่า เหตุการณ์เดือนเมษาเนี่ยมันแย่ไปถึงแค่ไหน คือถ้าเกิดมันแย่มากกว่ามันจะฟื้นก็คงต้องใช้เวลานาน แต่ว่าพฤษภาคมเนี่ยดวงดาวที่มันมาแบบแย่ๆหรือข่าวร้ายอะไรเนี่ย มันไม่ค่อยมี ถึงบอกข่าวดีว่าอย่างน้อยถ้าเราพ้นจากเดือนเมษายนไปมันเหมือนไม่ได้มีอะไรมาซ้ำเติมมากขึ้น ก็เชื่อว่าเป็นกำลังใจให้ก่อน ครั้งที่แล้วที่เราคุยกันเรื่องของดวงครึ่งปีหลัง ว่า ดาวราหูเข้าการเงินของดวงเมือง การเงินจะมีรายจ่ายเยอะ นอกจากดวงเมืองก็มีดวงคนที่ต้องระวังด้วย พอผ่านเมษาไปแล้วก็เป็นช่วงที่เริ่มเห็นอะไรดีๆมากขึ้น เริ่มเห็นทิศทางที่ดีมากขึ้น

ถ้าเราพูดถึงดวงเมืองเราดูจากอะไร?

อ.ช้าง: ดวงเมืองเนี่ยถูกกำหนด ณ วันที่ 21 เมษายน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่1 ท่านลงหลักเมืองไว้ เราจะใช้อันนั้นว่า 21 เมษายน คือราศีเมษ ช่วงเวลาตี 5 หกโมงจะเป็นลัคณาราศีเมษ อันนั้นจะเป็น จุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์ดวงเมือง กัน ก็ยึดอันนั้นในการผูกดวงเมืองขึ้นมา

หมอช้าง 3

แล้วดูดวงของโลกล่ะ เราดูจากอะไร?

อ.ช้าง: บังเอิญ ดวงเมืองไทยเป็นราศีเดียวกับโลก ของเรา ใช้ราศีเมษเป็นราศีของโลกเราด้วย สังเกตเวลาอ่านหนังสือดวงในแบบตะวันตก เขามักจะขึ้นที่ราศีเมษก่อน เพราะราศีเมษเป็นราศีที่เป็นเหมือนแกนของโลกของเรา เพราะฉะนั้นเนี่ย เมืองไทยกับอเมริกาเนี่ยมีความใกล้เคียงกันในทางทฤษฎีของดวง มันอยู่ตรงข้ามกันพอดี เวลามันมีอะไรเกิดขึ้นมันก็จะใกล้ๆกัน คือเดือนนี้ที่เรายังกังวลในทางดวงนะ มัน มีดาวเกตุ ซึ่งเป็นดาวที่แรง และก็ เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ไม่ค่อยดี

มีนาคมเนี่ยถ้าจำได้ ตั้งแต่ ต้นมีนาคม ดาวเสาร์ย้ายราศีเริ่มวุ่นวายอะไรเนี่ย ดาวพฤหัสย้าย คือย้ายกันแบบหนักมาก ซึ่งมันจบไปที่มีนารอบนึง แต่ เมษายนเนี่ยดันมีดาวเกตุซึ่งหมอดูก็จะกังวล เพราะ ดาวเนี่ยมันเป็นดาวที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มันมีทั้งบวกและก็ลบ แต่ว่าโดยต้นทุนของมีนาที่เกิดขึ้นเนี่ย มันค่อนข้างจะลบซะเยอะ พอพ้นจากมีนาไปแล้วดาวมันย้ายไปเกือบหมด ถ้ามองเป็นกราฟก็ให้มองว่า มันเริ่มคลี่คลายลง ก็ อย่าไปประมาทแล้วกัน ถือว่าในเชิงดวงมันไม่ใช่เรื่องโรคระบาดอย่างเดียว มันอาจจะหมายถึงปัจจัยอื่นๆ คือความเดือดร้อนเราอาจจะคิดว่าเรื่องโรคภัยไข้เจ็บอย่างเดียว แต่ว่าบางที่บางจังหวัดอย่างเชียงใหม่ก็มีไฟไหม้ป่า คือความเดือดร้อนในแต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่ว่าไม่ว่าคุณจะเจอเรื่องอะไรอยู่ก็ตามก็ ขอให้สบายใจได้เปราะนึงแล้วกันว่าพอมันพ้นจากเดือนนี้(เมษายน)ไปแล้วเนี่ย เราเริ่มจะมีข่าวดีมากขึ้น ดวงดาวจะเปลี่ยนใหญ่อีกครั้ง คือในเดือนกรกฎาคม ก็น่าจะเป็นล็อตใหญ่ที่จะมีคำตอบในทางที่เป็นบวกได้มากกว่าเดิม

อื้อหือ!!…เห็นหมอช้างทักดวงเมืองมาแบบนี้แล้วสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้อง เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อตั้งรับ คือ สติ ในเดือนเมษายนนี้ แต่ว่าพอพ้นผ่านไปได้ก็คงวางใจได้อีกเปราะนึง แต่…เพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งดีๆที่ จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หมอช้างเลยขอเปิดดวงทั้ง 12 ราศีแบบละเอียดยิบ ทั้งเรื่องดีที่ทำให้ยิ้มได้ และเรื่องร้ายที่แต่ละราศีต้องเตรียมรับมือ ดวงชะตาของใครจะรุ่งหรือจะร่วง ต้องไปชมย้อนหลังแบบเต็มๆได้ใน ‘รายการต้มยำอมรินทร์’

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight