หลังมีผู้นำข้าวสารอาหารแห้งและเงินเยียวยา 500 บาท แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ซึ่งเกิดกระแสวิจารณ์ถึงความเหมาะสมว่าไม่สมควร เนื่องจากจะยิ่งเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด
ชาวบ้านยอมรับว่า การมารวมตัวกันดังกล่าว ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เพราะจะไม่มีกินอยู่แล้ว
นายณัฐพล ลี้สกุล คนขับรถแท็กซี่ 1 ในผู้อยู่ในเหตุการณ์กลุ่มแรก ที่เห็นรถบรรทุกขนข้าวสารอาหารแห้ง และมีคนนำเต็นท์มากาง บริเวณซุ้มประตูหน้าวัดดอนเมือง เล่าว่า เมื่อประชาชนกลุ่มดังกล่าวนำของลงมา และจัดสถานที่เรียบร้อย ก็ตะโกนประชาสัมพันธ์ว่า จะมีการแจกเงินคนละ 500 บาท พร้อมให้ช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังชาวบ้านในพื้นที่ดอนเมืองรับทราบข้อมูล เพื่อจะได้มาต่อแถวรับเงิน
ทุกคนที่ได้ยินก็ต่างโทรบอกปากต่อปากใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ชาวบ้านนับพันคนก็มาต่อแถว จนเกิดความวุ่นวายขึ้น
นายณัฐพล บอกเพิ่มเติมว่า ไม่แปลกที่ทุกคนจะมาต่อแถว เพราะต่างก็พูดคุยกันว่าจะไม่มีกินกันอยู่แล้ว และนายณัฐพลก็ล้วงกระเป๋าหยิบเงินให้ทีมข่าวดูว่าขับรถแท็กซี่ทั้งวันเพิ่งจะได้เงิน 70 บาท จึงจำเป็นต้องมาต่อแถวรับเงินไปประทังชีวิต แม้จะรู้ว่าเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ก็ตาม
ส่วนชาวบ้านในชุมชนเปรมประชาสมบูรณ์อยู่ใกล้กับวัดดอนเมือง บอกว่า พอทราบข่าวต่างก็ออกไปต่อแถว ซึ่งบางส่วนก็ได้เงินบางส่วนก็ได้แค่สิ่งของ แต่บางส่วนก็ไม่ได้อะไรเลย โดยนางสุธิศา มามีสา แม่ค้าขายขนมหวานที่ตลาดใหม่ดอนเมืองพลาซ่า ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว และเป็นอีกคนที่วิ่งไปต่อแถวรับเงินเยียวยา แต่ได้เพียงข้าวสาร ซึ่งก็ถือว่าโชคดี
พร้อมตัดพ้อหลังสังคมวิจารณ์หนักว่าไม่กลัวติดโควิด-19 หรือ ถึงได้ไปรวมตัวกัน มิหนำซ้ำภาครัฐยังประกาศมาตรการเรื่องการแจกสิ่งของอีกด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยลงพื้นที่มาดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนเลย
อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งให้ผู้ที่ต้องการแจกข้าวสารอาหารแห้ง หรือเงินเยียวยาต่างๆ จะต้องดำเนินการแจ้งให้หน่วยงานเขตพื้นที่รับทราบ เพื่อจัดระเบียบไม่ให้เกิดความวุ่นวายในครั้งต่อไป เนื่องจากเหตุการณ์บริเวณหน้าวัดดอนเมือง สำนักงานเขตในพื้นที่แจ้งว่าไม่รับทราบข้อมูลการแจกสิ่งของดังกล่าว
ที่มา : ช่องวัน
- ‘อัศวิน’ ไม่ห้ามแจกของใน กทม. แต่ต้องแจ้งสำนักงานเขตจัดระเบียบ
- ประชาชนนับพันแออัดรับของแจกหน้า ‘วัดดอนเมือง’ วิจารณ์เสี่ยงโควิด-19
