ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (16 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ยังไร้ทิศทางชัดเจน ท่ามกลางความกังวลในเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความหวังว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเดินหน้าผลักดันให้เกิดการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 23,407.27 จุด ลดลง 97.08 จุด หรือ 0.41%ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,789.96 จุด ขยับขึ้นมา 6.60 จุด หรือ 0.24% และดัชนีแนสแด็กที่ 8,497.14 จุด ทะยานขึ้น 103.97 จุด หรือ 1.24%
วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 5.245 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5 ล้านราย แต่ยังน้อยกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีผู้มายื่นเรื่องขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 6.615 ล้านราย
การพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าว มีสาเหตุหลักมาจากการที่ภาคธุรกิจพากันปิดกิจการชั่วคราว จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก
แม้จะมีความกังวลถึงผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อการจ้างงานดังกล่าว แต่ตลาดก็ยังมีความหวังถึงสถานการณ์ที่อาจกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง จากการที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะประกาศในวันนี้ เกี่ยวกับแนวทางการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ ที่อาจจะทำให้บางรัฐสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้ก่อนถึงวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
ท่าทีดังกล่าวของผู้นำสหรัฐเกิดขึ้น หลังจากที่ผู้ว่าการของ 6 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ประกาศจัดตั้งคณะทำงานของตนเอง เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีแผนร่วมกันในการเปิดเศรษฐกิจบางส่วน
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังยืนยันว่า เขาเป็นผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวในการสั่งยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านทั่วทุกรัฐ
