กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JCC) และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Eastern Economic Corridor (EEC) Workshop ให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจที่จะลงทุนในพื้นที่ EEC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ รูปแบบการลงทุน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวกับนักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้าร่วมงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความสนใจอย่างจริงจังที่จะลงทุนใหม่หรือขยายการลงทุนในอีอีซี ว่า ขณะนี้โครงการลงทุนหลักในพื้นที่อีอีซี เดินหน้าตามแผนงานเป็นการยืนยันการเกิดขึ้นของอีอีซี
นายอุตตม ย้ำว่าแม้ไทยเปลี่ยนรัฐบาลใหม่บริหารประเทศ แต่โครงการอีอีซีจะยังคงได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดต่อไป เนื่องจากเป็นโครงการที่ได้ประโยชน์มาก ซึ่งไทยพร้อมขยายความร่วมมือหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ด้านการลงทุนจากญี่ปุ่น ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่าปี2560 นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยรวม 3,700 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 43% ของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในอีอีซี
สำหรับยอดขอรับส่งเสริมโครงการลงทุนในอีอีซีปีนี้ มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 300,000 ล้านบาท จากเป้าหมายรวมขอรับส่งเสริมการลงทุนภาพรวมทั้งประเทศ 720,000 ล้านบาท นักลงทุนที่สนใจลงทุนในอีอีซี มีทั้งญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐ จีน และเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันเดือนสิงหาคมนี้นักลงทุนจีนจะเดินทางมาดูลู่ทางการลงทุนในอีอีซีน่าจะประมาณ 300-400 คน
อย่างไรก็ตาม คณะนักลงทุนจีนที่จะลงพื้นที่เพื่อสำรวจการลงทุนครั้งนี้ ก็จะแบ่งพื้นที่ตามความสนใจของนักลงทุนจีน ซึ่งการลงทุนในอีอีซีจะมีความหลากหลาย ดังนั้นความสนใจของนักลงทุนจีนแต่ละรายจะไม่เหมือนกัน ” จะมีการจัดกรุ๊ปเพื่อลงพื้นที่สำรวจพื้นที่อีอีซี และดูความพร้อมรวมถึงความสนใจในธุรกิจที่จะลงทุนต่อไป”
การประชุมคณะกรรมการนโยบายอีอีซี วันนี้ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะมีการเสนอแผนงานหลัก ของอีอีซีเข้าสู่การพิจารณา เช่น แผนการใช้พื้นที่โดยรวมเพื่อรองรับโครงการลงทุน แผนการบริหารจัดการทรัพยากร เช่น แผนการบริหารจัดการน้ำ แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีกำหนดเวลาดำเนินการที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน