COVID-19

‘ฟอร์บส์’ ยก ‘ 7 ผู้นำหญิง’ รับมือ ‘โควิด-19’ เยี่ยม

นิตยสารฟอร์บส์ ตีพิมพ์บทความ “What Do Countries With The Best Coronavirus Responses Have In Common? Women Leaders” หรือ “สิ่งที่ประเทศที่รับมือกับไวรัสโคโรนาได้ดีที่สุดมีเหมือนกัน คือ ผู้นำหญิง”  โดยมีเนื้อหาชื่นชมผู้นำหญิงจาก 7 ประเทศหรือดินแดน ที่สามารถออกมาตรการรองรับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

C02 01

ผู้นำหญิงจาก 7 ประเทศหรือดินแดน ที่ฟอร์บส์ หยิบขึ้นมาพูดถึง รวมถึง นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นางจาร์ซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์  ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน ของไต้หวัน นางแคทริน ยาคอบส์ดอตตีร์  นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ นางซานนา มาริน  นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ นางเออร์นา ซูลแบร์ก นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ และนางเมตเต เฟรเดอริกเซน  นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก

ฟอร์บส์ กล่าวถึงความโดดเด่นในการรับมือสถานการ์ณระบาดของผู้นำหญิงเหล่านี้ โดยระบุว่า นางแมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี  แถลงผ่านโทรทัศน์ด้วยคำพูดที่จริงใจ และมีท่าทีสุขุม ถึงสถานการณ์การระบาดที่คาดว่าอาจมีประชาชนกว่า 70% ติดเชื้อ และเลือกใช้คำที่จริงจัง เช่น “นี่เป็นเรื่องจริงจัง ที่เราทุกคนต้องรับมือกับมันอย่างจริงจังเช่นกัน” รวมไปถึงการที่เยอรมนีสามารถนำประชาชนทั้งประเทศ ที่เข้าข่ายติดเชื้อ เข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อได้อย่างทันท่วงที จึงส่งผลให้เยอรมนีแม้จะมียอดติดเชื้อสูง แต่อัตราการเสียชีวิตคือว่าน้อยกว่าชาติเพื่อนบ้านในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ด้วยกัน

ขณะที่นางจาร์ซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ไม่เพียงแต่ใช้มาตรการปิดประเทศขั้นสูงสุดเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อสกัดการระบาดเท่านั้น ผู้นำหญิงรายนี้ยังมีวิธีการสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนได้ง่าย และโดยตรง ด้วยการ “ไลฟ์” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดให้ประชาชนเข้ามาซักถามข้อสงสัย ก่อนที่มาตรการปิดประเทศจะถูกบังคับใช้

ด้านประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน ของไต้หวัน สามารถใช้มาตรการอันเด็ดขาด สั่งปรับเพื่อลงโทษประชาชนที่ฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมโรค รวมถึงสกัดการเดินทางระหว่างจีนกับไต้หวันตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาด สืบเนื่องจากไต้หวันเคยได้รับบทเรียนจากคราวโรคซาร์ส จึงทำให้ล่าสุดไต้หวันไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 36 วัน

ทางด้านผู้นำประเทศกลุ่มนอร์ดิกอย่าง นางเออร์นา ซูลแบร์ก  แห่งนอร์เวย์ และนางเมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ซึ่งนอกจากจะให้ข้อมูลกับประชาชนทั่วไปแล้ว ผู้นำทั้งสองชาติยังได้ใช้การสื่อสารโดยตรงกับเด็กๆ ด้วยการเปิดให้เยาวชนในประเทศตอบคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา เพื่อสร้างความเข้าใจเช่นเดียวในลักษณะเช่นเดียวกับการให้ข้อมูลกับผู้ใหญ่

ส่วนไอซ์แลนด์ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแคทริน เลือกที่จะให้ประชาชนทุกคน เข้าตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย ทั้งยังมีการจัดทำระบบติดตามอย่างเข้มงวด ทำให้ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ หรือปิดโรงเรียน

Avatar photo