“S&P” ลดเรตติ้งประเทศไทยจากระดับ Positive สู่ระดับ Stable จากปัจจัยเรื่องการเมืองและไวรัสโควิด-19 ชี้อาจปรับลดเรตติ้งได้อีก หากเศรษฐกิจยังฟื้นตัวอ่อนแอ
S&P บริษัทจัดเรตติ้งระดับโลก ได้ทบทวนและปรับลดระดับเรตติ้งของประเทศไทย จากมุมมองเชิงบวก (Positive) เป็นระดับเสถียรภาพ (Stable) เพราะการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองภายใต้รัฐบาลเลือกตั้งจะต้องช้าออกไปอีก จากสภาพเศรษฐษกิจและสังคมที่ไม่แน่นอน ร่วมกับปัจจัยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโรค
อย่างไรก็ตาม S&P ยังคงระดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศไว้ที่ BBB+ และตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศไว้ที่ A-2 ด้านระดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาทอยู่ที่ A- และตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินบาทอยู่ที่ A-2 รวมทั้งยังคงระดับการประเมินความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินไว้ที่ระดับ A ตามเดิม
ทั้งนี้ S&P อาจปรับเพิ่มเรตติ้งของประเทศไทยขึ้นในอนาคต หากระบบรัฐสภาแบบรัฐบาลผสมมีการพัฒนามากขึ้นตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ โดย S&P ระบุว่าต้องการเห็นระบบการเมืองที่สามารถตอบสนองความต้องการของสังคมและช่วยแก้ปัญหาความไม่แน่นอนของการเมืองภายในประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม บริษัทก็อาจจะปรับลดเรตติ้งของประเทศไทยลงอีก หากเศรษฐกิจของประเทศยังฟื้นตัวล่าช้าและอ่อนแอมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
- หุ้นไทยพุ่ง 19.57 จุด ปิดซื้อขายที่ 1,256.35 จุด
- คาดพิษโควิดกระทบเศรษฐกิจ 1.3 ล้านล้าน! ชี้มีแววดิ่งลึกกว่าปี 40
- IMF เตือนเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำรุนแรง ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ โดนหนักสุด