“ขสมก.” เปิดไทม์ไลน์พนักงานขับรถเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 โดยได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. แต่ไม่ได้รายงานข้อมูล ทั้งนี้สั่งพนักงานใกล้ชิด 9 คนกักตัวแล้ว ไม่พบติดเชื้อ
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีพนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) สาย 140 ติดเชื้อโรคโควิด – 19 ซึ่งต่อมาพนักงานคนดังกล่าว ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 นั้น
ขสมก. ขอเรียนชี้แจงว่า ขสมก. รับพนักงานขับรถเมล์คนดังกล่าว กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา และ ขสมก. ได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร ดังนี้
- เมื่อวันที่ 16 – 22, 24 – 25, 27 – 31 มีนาคม 2563 และวันที่ 1 เมษายน 2563 พนักงานมีอุณหภูมิร่างกาย ไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงอนุญาตให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
- เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 พนักงานขอลาป่วย เพื่อไปพบแพทย์
- วันที่ 26 มีนาคม 2563 และวันที่ 2 เมษายน 2563 เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ของพนักงาน
- เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ตรวจพบพนักงานมีอุณหภูมิร่างกาย 38 องศาเซลเซียส จึงไม่อนุญาตให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งให้พนักงานรีบไปพบแพทย์ทันที
- พนักงานเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นต้นมา โดยเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ขสมก.ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่า แพทย์ได้วินิจฉัยแล้ว พบว่าพนักงานมีอาการปอดอักเสบจากการติดเชื้อโรคโควิด – 19
- ขสมก. ได้สั่งการให้พนักงาน จำนวน 9 คน ที่อยู่ใกล้ชิด พนักงานที่ติดเชื้อโรคโควิด – 19 ดังกล่าว กักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วัน พร้อมทั้งให้ผู้บริหารเขตการเดินรถที่ 5 ติดตามพนักงานและรายงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อมาพบว่าพนักงานทั้ง 9 คน มีสภาพร่างกายเป็นปกติ ไม่ได้ติดเชื้อโรคโควิด – 19 แต่อย่างใด
- ขสมก.พักการใช้งานรถเมล์แอร์ สาย 140 คันที่พนักงานขับรถคนดังกล่าว ขึ้นปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดำเนินการฉีดพ่น ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค และทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถโดยสารรวมทั้ง ฉีดพ่นผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคบริเวณท่าปล่อยรถ สำนักงาน โรงอาหาร ห้องสุขา ของเขตการเดินรถที่ 5 อย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 พนักงาน ได้เสียได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
- ในวันที่ 13 เมษายน 2563 ขสมก.ได้แจ้งกรมควบคุมโรค และสื่อมวลชนรับทราบว่า “ ขสมก.ตรวจพบพนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ สาย 140 ได้รับการติดเชื้อโรคโควิด – 19 หากประชาชนใช้บริการรถโดยสารประจำทางสาย 140 หมายเลขต่อไปนี้ มีอาการ ไอ จาม เป็นไข้ อ่อนเพลีย หายใจลำบาก หรือ สงสัยว่าตนเองจะได้รับเชื้อโควิด – 19 โปรดติดต่อกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข”
วันที่ 27 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90023 ระหว่างเวลา 08.40 – 14.00 น.
วันที่ 28 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90011 ระหว่างเวลา 08.15 – 13.20 น.
วันที่ 29 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90037 ระหว่างเวลา 06.10 – 11.45 น.
วันที่ 30 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90039 ระหว่างเวลา 11.05 – 15.30 น.
วันที่ 31 มีนาคม 2563 หมายเลขรถ 5 – 90035 ระหว่างเวลา 10.00 – 12.15 น.
วันที่ 1 เมษายน 2563 หมายเลขรถ 5 – 90019 ระหว่างเวลา 07.00 – 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่พนักงานขับรถเมล์ ขสมก. ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเสียชีวิตในครั้งนี้ ส่งผลให้สังคมนตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใด ขสมก. จึงไม่รายงานข้อมูลสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ทราบเรื่อง เนื่องจากกรณีนี้มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
โดย ขสมก. เพิ่งรายงานข้อมูลอย่างเป็นทางการ เมื่อสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของพนักงานคนดังกล่าวในวันนี้ (13 เม.ย.) ซึ่งประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่า มีการปกปิดข้อมูลหรือไม่
- เปิดไทม์ไลน์ โชเฟอร์หญิงวัย 52 ปี รถเมล์สาย140 ติดโควิดเสียชีวิต
- เศร้า! โชเฟอร์รถเมล์ขสมก.สาย140 ติดโควิดเสียชีวิต เตือนผู้โดยสารเฝ้าสังเกตอาการ
- ‘ผอ.ขสมก.’ แจงไม่ตั้งใจปกปิดกรณีพนักงานติดไวรัส แต่เข้าใจขั้นตอนคลาดเคลื่อน