วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ “โกลด์แมน แซคส์” ชี้ ราคาน้ำมันดิบ มีแนวโน้มที่จะร่วงลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากข้อตกลงลดเพดานผลิตน้ำมัน ที่มาเป็นประวัติการณ์ของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ ยังมีเพียงพอ สำหรับความต้องการบริโภคน้ำมันที่หายไป จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม ที่เรียกรวมกันว่า “โอเปค พลัส” (OPEC+) ประกาศบรรลุข้อตกลงลดจำนวนการผลิตน้ำมันลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนน เพื่อดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น
โกลด์แมน แซคส์ ชี้ว่า ยังมองเห็นความเสี่ยงขาลงของราคาน้ำมันในระยะสั้น โดยคาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จะมีราคาดีกว่าราคาน้ำมันดิบสหรัฐ เพราะมีแนวโน้มที่ การส่งออกของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคพลัส จะลดลง
อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ดังกล่าว สวนทางกับ “มอร์แกน สแตนเลย์” วาณิชธนกิจรายใหญ่อีกรายหนึ่ง ที่ประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้น โดยให้เหตุผลว่า แม้ข้อตกลงของโอเปคพลัส จะไม่ได้ช่วยป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำมันสำรองพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนต่อจากนี้ แต่ก็จะช่วยให้ปริมาณน้ำมันสำรองลดลงตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2563 เป็นต้นไป
มอร์แกน สแตนเลย์ คาดการณ์ว่า ในไตรมาส 3 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับ 25 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 27.50 ดอลลาร์ จากระดับ 22.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งยังประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบของทั้ง 2 แห่ง จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ 32.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงไตรมาส 4
- รัสเซีย-สหรัฐ-ซาอุฯ ถกหยุดผลิตน้ำมันหลังราคาดิ่งถึงขีดสุด
- ปตท.สผ. ปรับแผน-บริหารต้นทุน พร้อมรับมือ ‘ราคาน้ำมันต่ำ’ ระยะยาว
- ฝ่าวิกฤติโควิด-19! ลดราคา’น้ำมัน-แอลพีจี-เอ็นจีวี’ช่วยค่าครองชีพปชช.
