COVID-19

ศบค.ย้ำ อย่าวางใจ ตัวเลขผู้ติดเชื้อลด เหลือ 28 ราย เผยรอบบ้านตัวเลขยังพุ่ง

ศบค.ย้ำ อย่าเพิ่งวางใจตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ วันนี้เหลือ 28 ราย เหตุรอบบ้านยังพุ่ง โดยเฉพาะอินโด มีผู้ป่วยเพิ่ม 399 ราย ยกตัวอย่าง “ญี่ปุ่น” ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ กลับมาพุ่งอีก 622 ราย เผยพยากรณ์สถานการณ์แพร่ระบาดอยู่ยาว 3-4 เดือน บอร์ดวิชาการประเมินสถานการณ์ หากแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลงจริง มีโอกาสผ่อนคลายมาตรการบางพื้นที่ 

report01 01 0

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ประจำวันที่ 13 เมษายนว่า มีผู้ป่วยเพิ่ม 28 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,579 รายใน 68 จังหวัด มีผู้ป่วยหาย กลับบ้านเพิ่ม 70 ราย รวมกลับบ้านแล้ว 1,288 ราย ยังรักษาอาการในรพ.1,251 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมเสียชีวิต 40 ราย

รายแรก เป็นชายไทยอายุ 56 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน ป่วยวันที่ 7 มีนาคม มารักษาตัวที่รพ.เอกชน ในจังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 14 มีนาคม มีไข้ 38 องศา และ ไอ หอบเหนื่อย รพ.ตรวจไข้หวัดสายพันธุ์ A และ B และตรวจโควิด-19 ผลตรวจไข้หวัดเป็นลบ และยืนยันเป็นโควิด วันที่ 23 มีนาคม มีอาการหนื่อยมากขึ้น ใส่ท่อห่วยใจ เสียชีวิตวันที่ 12 เมษายน

รายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 43 ปี เป็นพนักงานบริษัท มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง มีไข้มันในเลือดสูง เริ่มป่วย 23 มีนาคม อาการไอ น้ำมูก ถ่ายเหลว 31 มีนาคม รักษาตัวที่รพ.เอกชในกรุงเทพ และกลับบ้าน 5 เมษายน อาการไม่ดีขี้น จึงกลับไปรักษาที่รพ.เดิม และส่งตรวจหาโควิด พบปอดติดเชื้ออ อาการแย่ลง เหนื่อย หัวใจหยุดเต็น และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 เมษายน ด้วยภาวะการหายใจล้มเหลว จะพบว่า ทั้ง 2 รายอายุไม่ถึง 60 ปี ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ป่วยทุกท่าน

TH UpDate02 4

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 28 ราย ประกอบด้วย

  • สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 18 ราย
  • กลับจากต่างประเทศ 1 ราย จากสหรัฐ กลุ่มนี้จะพบว่า กลับมา 1 คน ก็พบว่าป่วย 1 คน
  • ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และอยู่ใน State Quarantine 3 ราย เดินทางกลับมาจากอินโดนิเซีย รวมแล้ว กลุ่มนี้ป่วยรวม 61 ราย นับจากเจอกลุ่มก้อนแรก 42 รายเมื่อวันที่ 8 เมษายน สาเหตุเพราะอินโดนิเซีย ยังมีการแพร่ระบาดของโรคสูง
  • อาชีพเสี่ยง 2 ราย
  • สถานที่ชุมชน 1 ราย
  • บุคลากรการแพทย์ 3 ราย

Map New cases 01 0

กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ อยู่ในกรุงเทพ 12 ราย ภูเก็ต 6 ราย ชลบุรี ยะลา และสตูล จังหวัดละ 2 ราย ชุมพร นครพนม นนทบุรี และเลย จังหวัดละ 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นกรุงเทพ 1,306 ราย รองลงมาเป็นภูเก็ต 182 ราย นนทบุรี 150 ราย เป็นผู้ป่วยรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันโรคทรวงอก สมุทรปราการ 105 ราย อัตราผู้ป่วยต่อแสนประชากร ยังเป็นภูเก็ตสูงสุด 44.03 กรุงเทพ 23.03 ยะลา 15.72 และยังมี 9 จังหวัด ที่ไม่พบผู้ป่วย ประกอบด้วย กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง

Map increase02 01 0

Map increase 01 0

ทั้งนี้เรามาเรียนรู้สถานการณ์ที่ภูเก็ต พบว่า จากวันพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อ 26 มกราคม จากนั้นก็มีการรายงานพบผู้ป่วยมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีประวัติไปสถานบันเทิงสูงสุด คือ 70 ราย สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายก่อนหน้า 33 ราย และอาชีพเสี่ยง 33 ราย เป็นชาวต่างชาติมาจากต่างประเทศ 10 ราย คนไทยมาจากต่างประเทศ 4 ราย โดยพบว่าผู้ป่วย 1 ใน 4 ราย มารักษารพ.หลังจากป่วยมาแล้ว 7 วัน ถือว่ามาช้า ยิ่งมีโอกาสแพร่โรคไปให้คนอื่น

13Apr Phuket

13Apr Phuket Epidemic

สำหรับมาตรการแรกของภูเก็ต จึงมีการปิดสถานบันเทิงก่อน แต่เมื่อยอดผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้น จึงปิดสถานที่ต่างๆ และตามมาด้วยการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยตั้งแต่ 5 -10 เมษายน มีการไปเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ จากสารคัดหลั่งในโพรงจมูก ที่รพ.ป่าตอง ตรวจ 1,712 ราย พบเชื้อ19 ราย หรือ 1.1% วชิระภูเก็ต ตรวจ 763 พบมีเชื้อ 2 รายคิดเป็น 0.26% รพ.สต.เชิงทะเล อำเภอถลาง ตรวจ 103 ราย พบเชื้อ 5 ราย คิดเป็น 4.85% รพ.ถลาง อำเภอถลาง ตรวจไป 337 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ พิสูจน์ได้ว่าการตรวจแบบเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันจำนวนมาก ตรวจพบเชื้อได้มากกว่า เพราะเราไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวยเงินทอง และตรวจเยอะไม่ได้แปลว่าจะพบผู้ป่วยเยอะ

report06 011

ส่วนจำนวนผู้ป่วยยืนยันจำแนกตามปัจจัยเสี่ยง เราพบว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันยังสูง 441 ราย และกลุ่มนี้ก็เป็นอันดับ 1 มาตลอดมียอดสะสมแล้วถึง 864 ราย และตามมาด้วยกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 145 ราย รวมยอดสะสม 287 ราย  และอาชีพเสี่ยง 104 ราย ยอดรวมสะสม 224 ราย 

13Apr จำนวนผู้ป่วยยืนยัน

นพ.ทวีศิลป์ ย้ำว่า แม้เราจะเจอผู้ป่วยลดลง แต่ไม่อยากให้ผ่อนคลาย เห็นตัวเลขลดลงแล้วดีใจ และทำตัวปกติเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะแม้สถานการณ์ในประเทศเราจะดี แต่เราอยู่แวดล้อมไปด้วยประเทศที่กราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังสูง สถานการณ์จึงยังไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะในเอเชียจะพบว่า

อินเดียมีผู้ป่วยรายใหม่ถึง 759 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 9,205 ราย อินโดนิเซีย มีผู้ป่วยรายใหม่ 399 ราย ผู้ป่วยสะสม 4,241 ราย มาเลเซีย พบผู้ป่วยรายใหม่ 153 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 4,683 ราย ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 220 ราย มีผู้ป่วยสะสม 4,648 ราย

13Apr จำนวนผู้ติดเชื้อ

ส่วนสิงคโปร์มีผู้ป่วยรายใหม่หลักร้อยหลายวันติดต่อกัน ล่าสุดเพิ่มขึ้น 233 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2,532 ราย ปัจจัยมาจากส่วนใหญ่อยู่ตามหอพัก และสถานที่แออัด ขณะที่ญี่ปุ่น แม้จะคุมมาได้ ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ทรงตัว แต่ก็กลับมาเพิ่มอีก 622 ราย รวมยอดสะสม 7,370 ราย

ของไทยเพิ่มมา 28 ราย ก็ขออย่าให้เพิ่มมากกว่านี้ โดยตอนนี้ไทยอยู่ที่อันดับ 48 ของโลก เพราะเราหายป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันมากกว่าผู้ป่วยใหม่แล้ว ล่าสุดวันนี้เราหายป่วย ออกจากรพ. 70 ราย แต่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 ราย เตียงก็จะว่างมากขึ้น แต่เราจะต้องทำทั้งรักษา และป้องกันควบคู่กันต่อไป

report05 014

 

โดยในการประชุมศบค.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันนี้ ก็มีการระบุถึงการที่กระทรวงสาธารณสุข เริ่มมีการพูดคุยในคณะกรรมการวิชาการ โดยนำตัวเลขและปัจจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาดูถึงการผ่อนคลายมาตรการ และหารืออย่างรอบด้าน แม้การผ่อนคลายมาตรการต้องเกิดขึ้น แต่ก็ต้องมั่นใจในสถานการณ์จริงๆก่อน เพราะเราทราบดีว่ามาตรการทุกวันนี้ กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ ส่วนกระแสข่าวว่าจะให้ร้านตัดผมและร้านเสริมสวยเปิดร้านในเร็วนี้นั้น ต้องขอตรวจสอบก่อน แต่ก็ต้องระวัง เพราะการตัดผมต้องใกล้ชิดกันมาก อุปกรณ์เครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกัน หากทำความสะอาดไม่ดี คนถัดไปที่ใช้อาจมีประเด็นได้

“การตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการใดๆต้องนำตัวเลขสถิติมาดู ประกอบกับตอนนี้เราเข้าเทศกาลสงกรานต์ ที่ต้องรณรงค์ เพราะต้องเปลี่ยนแปลงวิถีคนไทยไปจากเดิมมาก ถือว่าเราช่วยกันมาอย่างดี สร้างระยะห่างได้ 70% ย้ำว่าต้องทำให้ถึง 90% เพราะหากเราการ์ดตกมาหน่อย ยอดผู้ติดเชื้อจะพุ่ง “

report02 01 1

ขอให้ทั้ง 65 ล้านคนเป็นแนวร่วมกันต่อไป หยุดอยู่บ้าน รักษาระยะห่าง รวมถึงร่วมมือทำมาตรการป้องกันต่างๆยาวไปถึงต้นเดือนหน้า เพราะมีการพยากรณ์ไว้ว่า โรคนี้จะอยู่กับเรา 3-4 เดือน แต่หากไม่มีการติดเชื้อในพื้นที่กว้าง การผ่อนคลายของบางจังหวัดก็อาจเป็นไปได้ แต่ยังบอกอะไรไม่ได้ว่าจะทำที่ไหน เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของเราก็เพิ่งจะลดลง และตัวเลขที่ลดลงวันนี้เป็นผลมาจากเมื่อ 5-7 วันที่แล้ว ที่เราช่วยกันเว้นระยะห่างกันมาอย่างดี หากวันนี้เราผ่อนคลายตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็จะพุ่งในอีก 5-7 วันถัดไป

สำหรับกรณียังมีการรวมกลุ่มกินเหล้า ไม่ว่าช่วงเวลาไหน ขออย่าทำเลย เพราะการห้ามขายสุรา หรือมาตรการปิดสถานที่ต่างๆ และเคอร์ฟิว เพราะไม่ต้องการให้มารวมกลุ่มกัน ให้อยู่ห่างๆกัน การดื่มสุรามีความเสี่ยง

อย่างไรก็ตามมีบางท่าน ดื่มมาหนักมานาน ตอนนี้ห้ามขาย ต้องหยุดดื่ม อาจเกิดอาการลงแดงได้ ซึ่งหากไม่ได้ดื่มแล้ว จะมีอาการมือสั่น ประสาทหลอน หูแว่ว หากดื่มมามากๆ และต้องหยุดทันที ขอไปปรึกษาแพทย์ แพทย์จะจัดยาทดแทน ทำให้มือไม่สั่น และลดวิตกกังวล เป็นยาคลายเครียดที่จะช่วยได้ 

Avatar photo