“สาหร่ายมาชิตะ” เดินหน้ากลยุทธ์ Collaboration ต่อเนื่อง ดึง “บอนชอน” ไก่ทอดสไตล์เกาหลี ประเดิมแคมเปญ “มาชิตะ x ร้านดัง อร่อยปังยกกำลังสอง” เสิร์ฟสาหร่าย รสไก่ทอดซอยการ์ลิค สร้างสีสันแปลกใหม่ให้กับตลาดสาหร่ายต้อนรับ ซัมเมอร์ วางเป้าหมายผลักดันกลุ่มสาหร่ายอบเติบโต 40%
นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มการตลาดแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า แบรนด์มาชิตะ จะเดินหน้าทำการตลาดด้วยแนวคิดใหม่ๆ เพื่อให้ตัวสินค้าและแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เติมเต็มประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค โดยให้ความสำคัญกับการทำตลาดร่วมมือกับพันธมิตร (Partnership Marketing) หรือกลยุทธ์ Collaboration กับแบรนด์ที่มีศักยภาพ นำจุดแข็งความอร่อยของทั้ง 2 ฝ่าย มาสร้างความสำเร็จด้านการเติบโตร่วมกัน
ทั้งนี้ล่าสุด มาชิตะได้จับมือร้านไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง “บอนชอน ชิคเก้น” ภายใต้แคมเปญ “มาชิตะ x ร้านดัง อร่อยปัง ยกกำลังสอง” พัฒนาเป็น สาหร่ายอบสไตล์เกาหลี รสไก่ทอดซอยการ์ลิค เพื่อเสิร์ฟผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เนื่องจาก บอนชอน ชิคเก้น มีแฟนคลับจำนวนมากที่ชื่นชอบไก่ทอด ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว โดยการร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้เกิดการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายซึ่งกันและกันได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้มาชิตะได้มีการ Collaboration กับแบรนด์ร้านอาหารปิ้งย่างชื่อดังของเมืองไทยอย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” และพบว่าได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทำให้ปีนี้ ยังเดินหน้าสร้างสีสันตลาดสาหร่ายอย่างต่อเนื่อง โดย สาหร่ายอบสไตล์เกาหลี รสไก่ทอดซอยการ์ลิค ขนาด 15 กรัม จำหน่ายราคา 39 บาท ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา เริ่มจำหน่ายวันที่ 2 เม.ย. 2563 เป็นเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน และยังสามารถสั่งผ่านแอปพลิเคชัน Food Delivery ทุกๆช่องทางของร้านบอนชอนได้อีกด้วย
ส่วนการสื่อสารการตลาดได้สร้างวิดีโอคลิป เพื่อนำเสนอผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, YouTube, Instagram สร้างการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์และเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น
ขณะที่ภาพรวมตลาดสแน็คสาหร่ายในปี 2562 ที่ผ่านมา มาชิตะมีส่วนแบ่งทางการตลาด 16.6% เป็นอันดับ 2 ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น และล่าสุด สาหร่ายมาชิตะ มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 18% (ข้อมูลเดือนม.ค.-ก.พ.63)
