COVID-19

3 ปัจจัย ส่งผล ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ของไทย ลดเหลือ 38 ราย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยลดเหลือ 38 ราย ศบค.วิเคราะห์เกิดจาก 3 ปัจจัย พรก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวได้ผล รวมถึงมาตรการคุมเข้มในระดับจังหวัด ประชาชน ร่วมมือใส่หน้ากาก-เว้นระยะห่างทางสังคม และการชะลอการเดินทาง อีโอซี เร่งขยายศักยภาพการตรวจหาเชื้อ เพิ่มจาก 20,000 รายต่อวัน หวังให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง 

report01 013

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อประจำวันที่ 7 เมษายน 2563 โดยกล่าวนำถึง การรับพระราชทานพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นแนวทางในการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และเราจะทำหน้าที่ของเรา ตามที่ได้มีกระแสพระราชดำรัส

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ของไทยวันนี้ ( 7 เม.ย.) รวม 38 ราย รวมยอดสะสม 2,258 ราย อยู่ใน 66 จงหวัด หายป่วยแล้ว 824 ราย

มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นรายที่ 27 เป็นชายไทยอายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัว มีประวัติไปงานเลี้ยงสังสรรค์ที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ป่วยวันที่ 13 มีนาคม มีอาการเหนื่อย เข้ารับรักษาตัวที่รพ.เอกชนวันที่ 14 มีนาคม ต่อมามีอารเหนื่อยมากขึ้น ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ และส่งตัวอย่างตรวจ พบเชื้อโควิด-19 เอ็กซเร์ยปอดพบอักเสบรุนแรง และเสียชีวิตวันที่ 6 เมษายน ด้วยอาการทางเดินหายใจล้มเหลว ขอแสดงความเสียใจ ต้องถือว่าผู้ป่วยรายนี้ อายุยังไม่มากนัก

report02 3

ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ทำให้รู้สึกดี หัวใจพองโต แต่ต้องวิเคราะห์ดูว่ามีปัจจัยจากอะไร ได้มีการประชุมเมื่อเช้านี้ มีอาจารย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร อาจารย์อุดม คชินทร ร่วมหารือด้วย โดยนำตัวเลขมาดูกัน อย่างตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างตัวเอง โดยมี 3 ประเด็นหลัก ที่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยลดลง ประกอบด้วย

1. การประกาศพรก.ฉุกเฉิน บวกด้วยเคอร์ฟิวด้วย ทำให้การพบปะลดลง

2. การควบคุมภายในประเทศ จากการทำงานร่วมกันของพ่อเมืองจังหวัดต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงมาตรการใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะทางสังคม และการทำกิจกรรมร่วมกันน้อยลง

3. กลุ่มเสี่ยงกลับจากต่างประเทศ มีระบบรองรับชัดเจน ตั้งแต่ก่อนเดินทางมา การเดินทางจนมาถึงไทย มีการจัดสถานที่พักรองรับ และมอนิเตอร์คนเหล่านั้น ทุกวันตลอด 14 วัน หากมีไข้ ก็จะได้รับการรักษา

Tester 01

มีการตั้งคำถามว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยลงนั้น เป็นเพราะไทยตรวจหาเชื้อน้อยหรือไม่ มีตัวเลขตัวเลข สถิติการตรวจจากห้องปฏิบัติการ เราทำไปแล้ว 71,860 ตัวอย่าง แต่เราก็ไม่พอใจ ทางศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) ก็ต้องการขยายการตรวจให้ได้มากขึ้นกว่านี้เหมือนกับบางประเทศ ที่ทำได้เป็นแสนตัวอย่างต่อวัน

โดยปัจจุบันศักยภาพในการตรวจทั้งภาครัฐและเอกชน ในกรุงเทพและปริมณฑลวันละ 10,000 ตัวอย่าง และในต่างจังหวัดอีก 10,000 ตัวอย่าง รวม 20,000 ตัวอย่าง ถือว่าเราทำเต็มที่แล้ว ภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ มีแนวทางที่จะให้เพิ่มจำนวนการตรวจ ซึ่งเราไม่กลัวว่าจะเจอมากเจอน้อย แต่อีโอซี ย้ำว่าก็ต้องเตรียมการรองรับด้วย สำหรับการตรวจที่เพิ่มขึ้น ในหลายระดับ ตั้งแต่เบาไปถึงหนัก และการรักษาในห้องไอซียู โดยมีการพูดถึงเครื่องช่วยหายใจพอหรือไม่ ต้องให้มีเพียงพอด้วย ซึ่งเราได้รับพระราชทานมาก็จะไปอยู่ตามรพ.ต่างๆ

TH UpDate02 2

สำหรับกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย ประกอบด้วย

  • กลุ่มสัมผัสผู้ป่วย 17 ราย อยู่กรุงเทพ 11 ราย ส่วนใหญ่ติดบ้าน ที่ทำงาน และกลุ่มเพื่อน
  • กลุ่มเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย
  • กลุ่มที่ไปสถานที่ชุมชน 3 ราย
  • กลุ่มอาชีพเสี่ยง 7 ราย
  • บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย
  • รอสอบสวนโรค 5 ราย ส่วนที่ข่าวว่าภูเก็ตรพ.แห่งหนึ่งต้องสอบสวนโรค เป็นร้อย ตัวเลขยังไม่ส่งเข้ามา

TaBle chart 01

ทางด้านกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นคือกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด และมักเป็นคนในครอบครัว โดยพบว่าสัปดาห์ที่ 15 กลุ่มนี้มียอดรวม 83 ราย รวมไปถึงกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่ยอดยังสูงสัปดาห์ที่ 15 รวม  17 ราย 

7Apr Map Newcases
หากดูรายพื้นที่จะพบว่า ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ อยู่ในพื้นที่กรุงเทพ 25 ราย ชลบุรี 4 ราย ภูเก็ต 3 ราย ส่วนกระบี่ ชุมพร นครราชสีมา นนทบุรี พิษณุโลก และสุพรรณบุรี จังหวัดละ 1 ราย

ส่วนตัวเลยผู้ติดเชื้อสะสม กรุงเทพสูงสุด 1,201 ราย รองลงมาเป็น ภูเก็ต 138  ราย นนทบุรี 134 ราย สมุทรปราการ 99 ราย ชลบุรี 70 ราย ยะลา 54  ราย ปัตตานี 46 ราย เชียงใหม่ 37 ราย สงขลา 37 ราย ปทุมธานี 26 ราย  อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 79 ราย และมี 11 จังหวัดยังคงไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่ก็ต้องทำงานอย่างหนักของทุกภาคส่วนทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ

report04 2

สำหรับผลจากมาตรการเคอร์ฟิวนั้น ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ก็ยังสะท้อนใจ เพราะตัวเลขวันนี้ 7 เมษายน ยังมีคนฝ่าฝืน ออกนอกเคหสถาน 1,217 ราย เพิ่มจากวันก่อนที่อยู่ที่ 919 ราย มีการดำเนินคดีไปแล้ว รวม 1,293 ราย ถือว่า 4 วันนี้นับจากประกาศเคอร์ฟิว มีผู้ฝ่าฝืนเพิ่มมาโดยตลอด ซ้ำยังมีการรวมกลุ่มชุมนุม มั่วสุม ยืนยันว่าหากทุกคนให้ความร่วมมือ จะไม่มีมาตรการใดมาเพิ่ม แต่หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็ต้องมมาตรการอื่นเสริมเข้ามา

ทางด้านมาตรการชะลอการเดินทาง ขยายจาก 6 เมษายน เป็น 7-18 เมษายนนั้น ทำให้มีชาวต่างชาติเข้ามาน้อยมาก แต่ยังมีคนไทยเดินทางเข้ามา และมีคนไทยต้องติดค้างที่สนามบินต่างๆ  ที่ญี่น 15 ราย เกาหลี 60  ราย เนเธอร์แลนด์  1  ราย อังกฤษ 1 ราย กาตาร์ 1 ราย ทางกระทรวงการต่างประเทศให้การดูแลอยู่ และในวันนี้ได้รับแจ้งว่า เวลา 20.30 น. จะมีเที่ยวบินจากฝรั่งเศส มารับคนของเขากลับ ซึ่งก็จะนำคนไทยมาลงที่ภูเก็ตด้วย และในเวลา 21.45 น. มีเที่ยวบินจากสหรัฐ มาลงที่สุวรรณภูมิ 60 ราย เที่ยวบินจากญี่ปุ่น 22 ราย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งทุกคนที่เดินทางมานั้น เราจะต้องติดตามให้อยู่ใน State Quarantine ที่เราจัดไว้

7Apr PT

“มีคนสอบถามมามากทั้งกับตนเองโดยตรง ในเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย ต้องยอมรับว่าอาจไม่สะดวก จากมาตรการชะลอการเดินทาง แต่ยืนยันว่า เราบริหารจัดการตามสถานการณ์ เพราะกลุ่มเดินทางกลับจากต่างประเทศติดเชื้อยังสูง ขณะเดียวกันก็มีการแพร่ระบาดในประเทศต่างๆทั่วโลก ถึง 206 ประเทศ ทำให้มียอดติดเชื้อทั้งโลกเพิ่มเป็น 1.3 ล้านคน ผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงมากเกิน 5,000 ราย คือ สหรัฐ อยู่ที่ 28,389 ราย สเปน 5,029 ราย และฝรั่งเศส 5,171 ราย  “

สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อสูงสุดยังอยู่ที่ กลุ่มอายุ 20-29 ปี จำนวน 551 ราย อายุมากที่สุดของผู้ติดเชื้อ 86 ราย อายุเฉลี่ย 39 ราย ชายติดเชื้อสูงสุด 1,206 ราย หญิง 976 ราย

report02 012

 

Avatar photo