COVID-19

ภูเก็ต ออกคำสั่ง วิธีจัดการ ‘ศพ’ ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 กันแพร่ระบาด

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1824 / 2563 เรื่องมาตรการจัดการศพและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในจังหวัดภูเก็ต มีสาระสำคัญ ดังนี้

โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในปัจจุบันที่ได้แพระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย(ฉบับที่ 3 )พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 โดยกำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 นายกรัฐมนตรีหรือความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคมพ.ศ. 2563 เกี่ยวกับโรคติดต่อดังกล่าวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19

ภัคพงศ์ ทวิพัฒน์

จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ตพบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเหตุผลซึ่งทางการแพทย์เห็นว่าการจัดการศพผู้เสียชีวิตที่ซึ่งเกิดจากสาเหตุโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ จึงกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากศพผู้เสียชีวิตขึ้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 และ7(1)ข้อ 11 ข้อ 14 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548(ฉบับที่1)ลงวันที่ 25 มีนาคมพ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่ 16 / 2563 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 จึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้

1.สำหรับศพซึ่งตายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าตายด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ห้ามดำเนินการดังต่อไปนี้

1.1 ห้ามมิให้นำศพที่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ออกนอกเขตจังหวัด

1.2 ห้ามมิให้อาบน้ำทำความสะอาดศพ

1.3 ห้ามมิให้ฉีดยารักษาสภาพศพ

1.4 ห้ามมิให้เปิดถุงบรรจุศพหลังการเก็บศพ

1.5 หากญาติผู้เสียชีวิตต้องการนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา กรณีผู้เสียชีวิตชาวไทยจะต้องจัดการนำศพไปประกอบพิธีภายใน 3 วัน กรณีผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติจะต้องจัดการนำส่งไปประกอบพิธีภายใน 5 วันและต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด

1.6 หากไม่มีญาติมาติดต่อหรือญาติไม่สามารถนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจะจัดการนำศพประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแทนการประกอบพิธีทางศาสนาตามความข้างต้นสามารถใช้ได้ทั้งวิธีการเผาและฝังศพ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความเชื่อและประเพณีตามศาสนาของผู้เสียชีวิต

2.ห้ามผู้ใดกระทำการหรือดำเนินการใดใดเกี่ยวกับศพซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป

การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้อย่างเด็ดขาด ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ฉบับที่หนึ่ง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนพ.ศ. 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2563

ภูเก็ต 1

ภูเก็ต1

Avatar photo