World News

เริ่ม 23 ส.ค.!! สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่ม 1.6 หมื่นล้านดอลล์

รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้

000 1776Q4

มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนล็อตแรกในอัตรา 25% วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา และหลังจากนั้นไม่นาน จีนก็ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน

เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ได้ประกาศรายการสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีนที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา

การเรียกเก็บภาษีนำครั้งล่าสุดนี้ พุ่งเป้าไปที่สินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์จากจีน แม้ว่าชิพพื้นฐานที่ติดตั้งอยู่ในสินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมาที่มาจากสหรัฐ ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้ก็ตาม

นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก สารเคมี และอุปกรณ์ทางรถไฟ ซึ่งยูเอสทีอาร์ ระบุว่า ได้รับประโยชน์จากแผนแม่บทอุตสาหกรรม “เมด อิน ไชน่า 2025” ที่รัฐบาลปักกิ่ง มีเป้าหมายทำให้จีนมีความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมไฮเทค

ทางด้านสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (เอสไอเอ) แสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของยูเอสทีอาร์ ที่ยังคงธุรกิจนี้ไว้ในรายชื่อการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน

นายจอห์น เนิฟเฟอร์ ประธานเอสไอเอ แถลงว่า ทางสมาคมได้ยื่นเรื่องถึงรัฐบาลไปแล้วว่า การเก็บภาษีสินค้าเซมิคอนดักเตอร์จากจีนนั้น จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิพอเมริกัน ไม่ใช่จีน และจะไม่ได้ช่วยยุติปัญหาด้านระบบ และความไม่เท่าเทียมกันทางการค้ากับจีนได้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight