COVID-19

รวมยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รอบ 1 เดือน เป็นกลุ่มคนไทย กลับจากต่างประเทศ ถึง 249 ราย ยุโรปสูงสุด

ไทยพบ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 102 ราย ยอดรวมสะสม 2,169 ราย รวมสถิติ 1 เดือน กลุ่มคนไทยกลับจากต่างประเทศ ป่วยรวม 249 ราย มาจากยุโรปสูงสุด 85 ราย ย้ำบูรณาการทำงานเข้มข้น รับคนไทยกลับจากประเทศไป State Quarantine ให้ครบ 14 วัน ป้องกัน Super Spreader ซ้ำรอยสนามมวย ย้ำช่วงอายุป่วยสูงสุด เป็นวัยหนุ่มสาวอายุ 20-29 ปี 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ผูู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้ยอดผู้ป่วยเพิ่ม 102 ราย กระจายใน 66 จังหวัด ยอดผู้ป่วยสะสม 2,169 ราย มีผู้ป่วยหายกลับบ้านแล้ว 674 ราย

report01

ผู้ป่วยรายใหม่ ประกอบด้วย

  • สถานบันเทิง 2 ราย
  • พิธีกรรมทางศาสนา 2 ราย
  • สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 44 ราย อยู่ในพื้นที่กทม.14 ราย ภูเก็ต 8 ราย สมุทรปราการ 6 ราย
  • คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 ราย
  • คนต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย 1 ราย
  • สัมผัสผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย
  • ไปสถานที่ชุมชน 5 ราย
  • มีอาชีพเสี่ยง เช่นทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดชาวต่างชาติ 19 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในภูเก็ต 10 ราย เป็นพนักงานนวด 5 ราย
  • บุคลากรด้านการแพทย์ และสาธารณสุข 2 ราย
  • อยู่ระหวางการสอบสวนโรค 19 ราย

TH UpDate02 0

วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย

รายแรก เป็นชายไทยอายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง มีประวัติกลับมาจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงไทยวันที่ 22 มีนาคม เข้ารับการรักษาวันที่ 25 มีนาคม ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก เสียชีวิต 3 เมษายน

รายที่ 2 เป็น ชายชาวสวิสเซอร์แลนด์ อายุ 82 ปี มีประวัติเสี่ยง คือ ร่วมสังสรรค์ ในหมู่บ้าน ที่อำเภอหัวหิน และสังสรรค์ที่บาร์ และร้านอาหาร ย่านสุขุมวิท และมีโรคประจำตัว คือ หัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง เข้ารับการรักษา โดยมีอาการไข้ ในวันที่ 31 มีนาคม ที่รพ.เอกชน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาความดันสูงมาก หายใจเหนื่อยหอบ เป็นปอดบวม ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่รพ.ในจังหวัดเพชรบุรี ต่อมา 1 เมษายน ใส่เครื่องหายใจ และเสียชีวิตด้วยระบบหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 2 เมษายน

รายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 30 ปี มีประวัติชอบดื่มสุรา วันที่ 19 มีนาคม เดินทางมาจังหวัดพัทลุง ต่อมาเดินทางไปสุรินทร์ ป่วย 29 มีนาคม มีอาการไอ ไม่มีไข้ แต่มีเสมหะสีเขียว อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลด เหนื่อยหอบ โดยกู้ชีพ นำไปรักษาตัวที่รพ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ แรกรับค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ เอ็กเรย์ปอดเข้าได้กับ “ปอดอักเสบรุนแรง” เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 เมษายน

ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลผู้เสียชีวิตจนถึงวันที่ 4 เมษายน 20 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุอายุ 50-59 ปี สูงสุด 8 ราย ปัจจัยเสี่ยง เป็นกลุ่มมาจากต่างประเทศ และพิธีทางศาสนา 50% หรือ 4 ราย ส่วนอายุ 70-79 ปี 6 ราย อายุ 80-89 ปี 2 ราย โดยกลุ่มอายุ 70 ปีขึ้นไป 50% มาจากสนามมวย 4 ราย ส่วนกลุ่มอายุ 40-49 ปีเสียชีวิต 2 ราย ช่วงอายุ 30-39 ปี และ 60-69 ปี กลุ่มละ 1 ราย

5Apr Map Newcases

ทั้งนี้ผู้ป่วยใหม่ 102 ราย สูงสุดพบที่ภูเก็ต 24 ราย ทำงานในอาชีพเสี่ยง 10 ราย อีก 8 รายสัมผัสผู้ป่วย รองลงมา พบในพื้นที่กรุงเทพ 34 ราย สมุทรปราการ 9 ราย ชลบุรี 8 ราย นนทุบรี 7 ราย ส่วนยอดผู้ป่วยสะสม สูงสุดยังอยู่ในกรุงเทพทะลุ 1,000 ราย แล้วมาอยู่ที่ 1,011 ราย รองลงมาอยู่ที่นนทบุรี มียอดสะสม 137 ราย ภูเก็ต 131 ราย

โดยมี 11 จังหวัด ไม่พบรายงาน ขอบคุณพผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนที่ตรึงให้มากที่สุด ทราบว่าทำงานหนักมาก ประกอบด้วย กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และอ่างทอง แต่อย่างไรก็ตามทุกจังหวัดยังมีความเสี่ยงทั้งสิ้น

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ ย้ำว่า คือ กลุ่มผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงวันที่ 4 เมษายน มีจำนวนรวม 249 คน มาจากยุโรปสูงสุด 85 ราย มาเลเซีย 49 ราย อินโดนิเซีย 44 ราย กัมพูชา 26 ราย ปากีสถาน 14 ราย ญี่ปุ่น 10 ราย สหรัฐ 9 ราย อื่นๆ 12 ราย กิจกรรมในต่างประเทศ คือ ทำงาน 39% รองลงมาเป็นพิธีกรรมทางศาสนา 31% เป็นนักเรียนนักศึกษา 12% ท่องเที่ยว 4 % ไม่ระบุ 14%

report03 2

กลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นสาเหตุให้ เราต้องดำเนินมาตรการต่างๆเข้มงวด กับกลุ่มเดินทางกลับมาจากต่างประเทศทั้ง 158 รายวานนี้ และการที่หลายคน บอกว่า “แข็งแรง” และได้ใบรับรองแพทย์มาแล้ว เราขอยืนยันว่า จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ 3 มกราคม – 4 เมษายน 2563 กลุ่มผู้ป่วยสูงสุด อายุ 20-29 ปี จำนวน 504 ราย รองลงมาช่วงอายุ 30-39 ปี จำนวน 487 ราย

“การที่ต้องเข้มงวดกับ กลุ่มกลับมาจากต่างประเทศ ทั้ง 158 ราย เพราะหากหากคุมไม่ดีเพียง 1-2 ราย ก็สามารถเกิด Super Spreader ซึ่งเรามีบทเรียนมาแล้ว อย่างไรก็ตามการที่ทั้ง 158 ราย รายงานตัวครบแล้ว ก็ต้องขอบคุณมาก” 

5Apr ผู้ป่วยจำแนกตามที่มา

ทั้งนี้ในเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ติดตาม 158 คนไทย ที่ออกไปจากสนามบินให้ครบทั้งหมด และสั่งการให้ผู้รับผิดชอบต่างๆ ทำงานเต็มที่ และบูรณาการ จนทุกอย่างเรียบร้อย นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณพ่อแม่ผู้ปกครอง และ 158 รายที่ให้ความร่วมมือ ทำให้ใช้เวลาไม่นาน ในการติดตามตัวเพื่อเข้าสู่สถานที่กักกัน หรือ  State Quarantine 14 วัน ทำให้มั่นใจขึ้นว่า ระบบของเราเป็นอย่างไร และได้ดำเนินการได้อย่างที่พูดคุยกัน

สำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัด 65 ราย กระจายไป 27 จังหวัด จัดใหัที่อยู่ใกล้ภูมิลำเนา เป็นโรงแรม รีสอร์ท หรือ สถานที่ราชการที่เหมาะสม ส่วนกรุงเทพ และปริมณฑล 93 ราย ส่งไปที่โรงแรม  2 แห่ง ในกรุงเทพและใกล้เคียง ที่ดูแลเหมือนเป็นแขก ต่อไปเราจะเอ่ยนาม 2 โรงแรมนี้ ที่เสียสละมาช่วยกัน

ทั้งนี้ทุกท่านที่อยู่ใน State Quarantine จะได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งห้อง และอาหาร 3 มื้อ ตลอด 14 วัน ซึ่งในบางประเทศ ทำได้จำกัดกว่าเรา เช่น ต้องจ่ายค่าที่พัก และอาหารเอง เป็นต้น แต่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับทุกคน ต้องการดูแลคนไทยให้ดีที่สุด

ยืนยันว่าเราดูแล 158 คนไทย เหมือนกับคนไทยจากอู่ฮั่น และอิตาลี ซึ่ง State Quarantine ตามภาษากฎหมาย เรียกว่า เป็นสถานที่กักกัน แต่หากดูสถานที่เราจัดให้ จะพบว่าเราดูแลอย่างดี เพียงแต่ไม่ให้ออกไปภายนอก เขาสามารถเดินไปมา ไม่ได้ป่วย ก็อยู่ห้องคู่ได้ หรือจะอยู่ห้องเดี่ยว หากมีพื้นที่ ก็สามารถอยู่ได้ สำคัญ คือการป้องกันให้ดี ข้าวของเครื่องใช้ต้องแยกกัน

” เราต้องยอมรับกติกา หลายคนก็ยอมรับ และเราก็ดูแลอย่างดี มีอาหาร 3 มื้อ มีกำลังเวรยามดูแล และมีทหารประจำการอีก ขณะเดียวกันทีมของกระทรวงสาธารณสุข ก็เข้าไปดูแลท่านอีก ส่วนชาวบ้านที่อยู่โดยรอบ State Quarantine ไม่มีความเสี่ยงใดๆ  อย่าได้รังเกียจ สร้างความแตกแยก กีดกัน ซึ่งตอนนี้มีหลายโรงแรมมีจิตศรัทธา จะยกให้เป็น  State Quarantine เต็มเลย ก็ขอขอบคุณที่ได้แสดงความรู้สึกที่ดี และเจตนาที่ดี   เหลือแต่ประชาชนรอบพื้นที่ แต่บางที่ หลังมีการอธิบาย ก็เข้าใจเป็นอย่างดี เพราะตอนนี้โรงแรมก็ไม่มีคนอยู่ หากรัฐได้มาทำตรงนี้ ก็จะได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ” 

ทั้งนี้หลังจากได้บูรณาการทำงานมากขึ้น เมื่อวานนี้ ( 4 เม.ย.) มี 2 เที่ยวบินที่กลับหลังจาก 158 คนไทย  มาจากมาเลเซีย 51 ราย กาตาร์ 47 ราย ได้ร่วมมือกันทุกฝ่าย ทั้งกองทัพไทย  กระทรวงการต่างประเทศ การท่าอากาศยาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( สตม.) ภาคเอกชน โรงแรม คมนาคมขนส่ง กระทรวงมหาดไทย เกิดผลให้เห็นวาคนไทยร่วม 100 ราย ที่มาถึงที่นี้ ใช้เวลาขนกระเป๋า และไปยัง State Quarantine  เรียบร้อยดีทุกอย่าง ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชม.

และต้องกราบขออภัยคนไทยที่ยังติดค้าง เพราะยังมีคนไทยต่อเครื่องมาไทย ต้องรอคอยในสนามบิน ของต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานทูต ว่ามีคนไทยที่เตรียมเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง ต้องขออภัย ที่ทำให้ไม่สะดวกบ้าง บางท่านต้องนอนสนามบิน อย่างไรก็ตามสถานทูตได้เข้าไปดูแลแล้ว

เพราะหาก เข้ามาพร้อมกันหลายร้อยรายในเวลานี้ ก็ไม่ต่างจาก 158 รายเมื่อวาน เพราะการมีเฉลี่ยเข้ามาหลัก 200 เศษต่อวัน  ซึ่งต้องไป  State Quarantine หากเดินทางเข้ามาวันละ 200 ราย 5 วันพันราย ก็ต้องมีสถานที่รองรับ ให้แต่ละท่านอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งเราจะต้องระดมเจ้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดูแลอย่างดี ทั้งนี้คนทำงานทั้งหมด ต้องการกำลังใจ ขอให้อดทน และเราจะผ่านไปด้วยกันอย่างดี

report02 1

 

report04 0

 

 

Avatar photo