COVID-19

คืนแรก! จับ 42 คดี ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว เชียงใหม่เจอ 21 คน

วันนี้ (4 เม.ย.) พล.ต.ท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยถึงสถานการณ์ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามประชาชนเดินทางออกข้างนอก ตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 น. ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อคืนวานนี้ (3 เม.ย.) เป็นวันแรกนั้น

a265ff088c72761ff456443b1ecdd671 e1585983783163

รายงานจากผู้เข้าการปฎิบัติหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่า  มียานพาหนะที่ผ่านจุดตรวจ 7,598 คัน จำนวน 16,010 คน 7598 คัน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า และการเข้าออกเวรของบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงโรงงานอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ดี พบการฝ่าฝืนคำสั่ง กรณียานพาหนะ 144 คัน  รวมเป็นผู้กระทำความผิด ทั้งสิ้น 177 คน ในจำนวนนี้ มีการว่ากล่าวตักเตือนไป 94 คน และดำเนินคดีทั้งสิ้น 42 คดี เน้นในกลุ่มมั่วสุมแข่งรถ และสังสรรค์

สำหรับสถานการณ์ในต่างจังหวัดนั้น  สถานีตำรวจสภ.ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต รายงานผลการตั้งจุดตรวจเคอร์ฟิวในคืนแรกว่า ได้จับกุมตัวผู้กระทำผิด 8 คนด้วยว่า รวมถึง ขาวจีน และชาวเมียนมา ชาติละ 2 คน ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นโดยไม่มีความจำเป็น หรือเข้าข้อยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548(ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ข้อ 1

curfew123

ขณะที่นครพนมพบว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดี บรรยากาศเงียบสงบ ยังไม่มีการจับกุมดำเนินคดี สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง โดยมีประชาชนบางส่วนที่มีความจำเป็น หรือมีเหตุฉุกเฉินที่จะต้องเดินทาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ ตรวจสอบคัดกรอง และมีการอนุโลม หากมีความจำเป็นสำหรับบางราย แต่หากพบมีเจตนาฝ่าฝืน จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชน ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

เชียงใหม่ พบผู้ฝ่าฝืนตามมาตรการภาพรวมจำนวน 21 ราย สรุปผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ภ.จว.เชียงใหม่ รวมทั้งหมด 21 ราย ทั้งหมดถูกส่งตัวฟ้องศาล ไม่ให้ประกันตัวแต่อย่างได  โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า “ออกนอกเคหะสถานระหว่าง 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

Avatar photo