นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ “ลี เซียน ลุง” ประกาศดำเนินมาตรการ “เชิงรุก” ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รวดเร็วขึ้นในสิงคโปร์
ระหว่างการแถลงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 วันนี้ (3 เม.ย.) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ระบุว่า แม้การดำเนินมาตรการควบคุม และป้องกันโรคในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการรักษาระยะห่างทางสังคม จะทำให้สิงคโปร์สามารถควบคุมการระบาดได้อย่างดี แต่เมื่อมองแนวโน้มแล้ว เขารู้สึกกังวลว่า ถ้าหากไม่มีการดำเนินมาตรการเพิ่มเติม สถานการณ์จะค่อยๆ ย่ำแย่ลง
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงตัดสินใจที่จะดำเนินมาตรการเชิงรุกในทันที แทนที่จะรอเวลาต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้การระบาดแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยมาตรการที่สิงคโปร์จะนำเข้ามาใช้นั้น รวมถึง การปิดโรงเรียนทั้งหมด โดยจะให้โรงเรียน และมหาวิทยาลัยเปลี่ยนไปเป็นการเรียนการสอนจากบ้านเต็มตัว
นอกจากนี้ ยังจะปิดที่ทำงานส่วนใหญ่ ยกเว้นร้านอาหาร ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต คลินิก โรงพยาบาล บริการสาธารณูปโภค การขนส่ง และธนาคาร ซึ่งมาตรการนี้จะใช้เวลา 1 เดือน เพื่อยับยั้งไม่ให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ นายลี ยังขอให้ประชาชนอยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เลี่ยงการพบปะสังสรรค์กับคนนอกบ้าน และขอยืนยันว่าประเทศมีอาหารเพียงพอ แม้พ้นจากช่วงเวลานี้ไปแล้ว โดยจะมีการประกาศมาตรการช่วยเหลือครัวเรือน และธุรกิจเพิ่มเติมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (6 เม.ย.)
ทั้งนี้ สิงคโปร์พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ มีทั้งคนมาจากต่างประเทศ และจากการติดเชื้อในประเทศ โดยนับถึงช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น สิงคโปร์รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 65 คน ส่งผลให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อในประเทศที่ 1,114 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 5 ราย
- โปรดทราบ! ‘ทางด่วน’ ปิดให้บริการทุกด่านระหว่าง 22.00-04.00 น.
- WHO หนุนคนอยู่บ้านหนีโควิด-19 ‘เล่นเกมออนไลน์
- ‘รถไฟ’ ประกาศงดเดินรถโดยสารเพิ่มเติม ล่าสุดเหลือให้บริการ 44 ขบวน