“กรมรางฯ” ออกประกาศ! ย้ำผู้ประกอบการทุกรายต้องปิดสถานีภายใน 21.30 น. ด้าน “การรถไฟฯ” ต้องเพิ่มมาตรการคัดกรองเข้มข้น ถ้าเข้าข่ายโควิด-19 ห้ามใช้บริการร่วมกับผู้โดยสารอื่น
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยหลัง ลงนามในประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่อง “มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ฉบับที่ 2” ว่า
ตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26มีนาคม 2563 เพื่อให้มีมาตรการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นตามความจำเป็น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ยุติลงโดยเร็วนายกรัฐมนตรีจึงได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ตามข้อยกเว้น
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว กรมการขนส่งทางรางจึงออกประกาศดังกล่าว โดยรายละเอียดจะแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ 1. ผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และ 2. ผู้โดยสาร โดยมีรายละเอียดดังนี้
ข้อ 1 ผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางพึงปฏิบัติดังนี้
(1) ดำเนินการเปิดให้บริการให้สอดคล้องตามข้อกำหนด โดยสมควรเปิดให้บริการเดินระบบรถไฟและรถไฟฟ้า ระหว่างวันภายหลังเวลา 04.00 น. โดยปิดให้บริการ ณ สถานีปลายทางในเวลา 21.30 น. โดยประมาณ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารให้สามารถกลับถึงเคหสถานก่อนเวลา 22.00 น.
(2) พิจารณาลดการปฏิบัติการเดินรถอันควรแก่กรณีที่จำเป็นให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ให้เกิดความเหมาะสมและให้ความร่วมมือแก่ทางราชการ พร้อมทั้งกำหนดตารางการเดินรถที่มีความชัดเจนและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทางทราบโดยทั่วกัน
(3) สำหรับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ให้กำหนดแผนปฏิบัติงานอันคำนึงถึงความปลอดภัยต่อระบบการเดินรถเท่าที่จำเป็น และมีมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.กำหนดบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) โดยปฏิบัติดังนี้
(3.1) ให้ออกเอกสารรับรองการปฏิบัติงานของหน่วยงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือการเดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยาน
(3.2) ให้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทางสำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
(4) สำหรับระบบรถไฟระหว่างเมืองให้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการคัดกรองตรวจตราผู้โดยสารที่มีลักษณะเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) มิให้ใช้บริการร่วมกับผู้โดยสารอื่น โดยสมควรติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือกรมควบคุมโรคเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้ใช้ดุลพินิจสูงสุดในการดำเนินการตามความเหมาะสมแก่เหตุอันควรรายกรณี และชี้แจงเหตุผลความจำเป็นแก่ผู้โดยสารอันเป็นประโยชน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ข้อ 2 ผู้โดยสารพึงปฏิบัติดังนี้
(1) วางแผนและประมาณการระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลงตารางเดินรถ และให้เดินทางเท่าที่จำเป็นภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
(2) ให้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง กรณีพบเห็นผู้ที่มีลักษณะเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงเพื่อประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือกรมควบคุมโรคเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรมการขนส่งทางรางขอว่าประกาศดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการวางมาตรฐาน การให้บริการเดินรถ การให้บริการในระบบรางให้สอดคล้องกับข้อกำหนดภายใต้ พ.ร.ก. การบริหารราชการฯ และยึดถือความปลอดภัย ความสะดวก ในการเดินทางเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันเพื่อให้หน่วยปฏิบัติไปในแนวทางใกล้เคียงกัน ซึ่งก่อนที่จะออกประกาศ ได้มีการหารือผู้ให้บริการทุกรายแล้ว เพื่อความรอบคอบ และเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน หน่วยงานผู้ให้บริการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเป็นลักษณะขอความร่วมมือตั้งแต่วันนี้ (3 เม.ย.) เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ให้บริการระบบขนส่งทางรางและผู้โดยสารปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว เพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ต่อไป
- จับทุกราย!! ‘โฆษก สตช.’ เตือนอย่าฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
- ด่วน!! เปิดรายละเอียดประกาศ ‘เคอร์ฟิว’ ทั่วประเทศ ฝ่าฝืนเจอโทษหนัก
- ‘อธิบดีกรมราง’ คนใหม่ฟิต! เตรียมถกมาตรการป้องกันโรคติดต่อบนรถไฟฟ้า