Politics

‘ผบ.ทบ.’ สั่งกำลังพลเตรียมพร้อมรองรับมาตรการ ‘เคอร์ฟิว’

“ผบ.ทบ.” กำชับผู้บังคับหน่วยปฏิบัติตามแผนรองรับมาตรการ “เคอร์ฟิว” ของรัฐบาล พร้อมลาดตระเวนไปหลังเคอร์ฟิว 2-3 รอบ เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก(ศปก.ทบ.) หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก(นขต.ทบ.) ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งที่ประชุมรับทราบรายงานเกี่ยวกับการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เพื่อดำเนินการหลังรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00 -04.00 น. โดยกำหนดเรื่องการใช้กำลังสนับสนุนการดำเนินการของฝ่ายปกครอง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ควบคุมกำหนดจุดตั้งด่านตรวจ ดูแลประชาชน ส่วนทหารจะใช้กำลังจากสารวัตรทหารและหากไม่เพียงพอจะใช้กำลังทหารช่วยเหลือประชาชนมาเสริม

ทั้งนี้ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ระดับ ตำบล อำเภอ และจังหวัด ใช้กำลังขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ลดการตั้งจุดตรวจ เหลือไว้เฉพาะที่สำคัญ เพิ่มการลาดตระเวนตามเส้นทางระหว่างอำเภอ ทั้งในลักษณะร่วมปฏิบัติ 3 ฝ่ายคือ ตำรวจ ทหารและอาสาสมัคร และแยกปฏิบัติตามพื้นที่รับผิดชอบ โดยในส่วนของทหารให้รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ฝ่ายทหาร (รองผอ.รมน.จังหวัด) ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผอ.รมน. จังหวัด และผู้บังคับการตำรวจ เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค

อภิรัชต์110622

ตั้งวอร์รูมดูเรื่องการตั้งจุดตรวจ เวลานี้เราไม่ได้ต่อสู้กับภัยสงครามหรือเหตุการณ์ความไม่สงบ การแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบในกทม. จะไม่ใช้กำลังรบจากหน่วยรบเท่านั้น จะใช้หมดทุกเหล่า การตรวจในพื้นที่จะแบ่งตามหน่วยที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วย เรามียานพาหนะ ออกลาดตระเวนไปหลังเคอร์ฟิว 2-3 รอบ ความเข้มงวดนี้จะทำให้ประชาชนอุ่นใจ เพราะพื้นที่กทม.เป็นพื้นที่กระจายโรคมากที่สุด” ผบ.ทบ. กล่าว

ที่ประชุมรับทราบการรายงานการเข้าออกค่ายเกินเวลาที่กำหนด 21.00 น. ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกกำชับว่าต้องดำเนินการตามคำสั่ง หากใครฝ่าฝืนต้องมีเหตุผลจำเป็น เพราะถือว่าขัดคำสั่ง ให้จัดทำแบบฟอร์มการเข้าออกเพื่อคัดแยกให้ชัดเจน ให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามข้อกำหนดและคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะข้อกำหนดเหล่านี้จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับการปฏิบัติในอนาคต เมื่อเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ พร้อมสั่งผู้บังคับหน่วยทุกระดับดูแลกำลังพลและครอบครัวในภาวะที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาด รวมทั้งทหารกองเกินที่ยังอยู่ในวัยรุ่นและไม่ได้กลับบ้าน

“ต้องใส่ใจอย่างใกล้ชิด เยี่ยมเยียนกำลังพลและครอบครัวถึงบ้านพัก สอบถามว่าในครอบครัวมีใครป่วยหรือไม่ เพื่อส่งตัวเข้ารับการตรวจรักษาทันท่วงที ให้ดูแลสวัสดิการ เรื่องปากท้อง การแจกถุงยังชีพต่าง ๆ เพราะไม่ใช่ประชาชนทั่วไปเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด แต่กำลังพลร้องเรียนมาว่าได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งจะต้องหามาตรการช่วยเหลือกันต่อไป ขณะนี้เรามีบ้านพัก มีสวัสดิการเรื่องรักษาพยาบาลดูแลแล้ว ให้ผู้บังคับหน่วยลงไปเติมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เติมความใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชามากขึ้น” ผบ.ทบ. กล่าว

Avatar photo