COVID-19

‘พิษณุโลก’ เร่งติดตามกลุ่มเสี่ยงไม่กักตัว สัมผัสนับพันคน หวั่นติดโควิดพุ่ง

กลุ่มเสี่ยงพิษณุโลกเพ่นพ่าน ทั้งกลับจากต่างประเทศ-กทม. หวั่นยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง เฉพาะผู้ติดเชื้อ 3 รายที่ยืนยัน ยังสัมผัสคนนับพัน ล่าสุดติดเชื้อราย 4 สาวกลับจากอังกฤษ

นายแพทย์รัฐภูมิ ชามพูนท รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก และนายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดพิษณุโลก หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มอีก 1 ราย ส่งผลให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วรวม 4 ราย และยังไม่มีผู้เสียชีวิต

พิษณุโลก
นายแพทย์รัฐภูมิ ชามพูนท

นายแพทย์รัฐภูมิ กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลก มีผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งเขตติดโรคอันตราย และพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง กระจายทั้ง 9 อำเภอ รวม 277 คน ยังอยู่ในการติดตามเฝ้าระวังอาการปกติ จำนวน 61 คน ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีจำนวน 5,177 คน

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้อยู่กับบ้านตามที่รณรงค์ไว้ แต่กลับออกจากบ้านไปสถานที่ต่างๆ  ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ โดยกรณีผู้ติดเชื้อ 3 รายแรก ของจังหวัดพิษณุโลก พบว่ามีผู้สัมผัสมากเกือบ 1,000 คน ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการติดตามเพื่อแยกตัวออกจากสังคมเป็นเวลา 14 วัน และส่งต่อข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฯ เพื่อระวังคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่อไป

พิษณุโลก1
นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์

ด้านนายแพทย์สุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจังหวัดพิษณโลก เป็นผู้ป่วยเป็นเพศหญิงอายุ 23-24 ปี เริ่มมีอาการป่วยมีไข้ ขณะที่พักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้เดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ ด้วยเครื่องบินการบินไทย เที่ยวบิน TG9111 ที่นั่ง 44E ถึงประเทศไทยวันที่ 31 มี.ค.63 เวลา 06.00 น. รู้สึกไม่สบาย จึงเดินทางไปตรวจเชื้อที่ รพ.พญาไท ที่กรุงเทพมหานคร และเดินทางกลับพิษณุโลก โดยรถส่วนตัวกับบิดา ถึงพิษณุโลกในช่วงเวลา 17.00 น.และได้ระมัดระวังตนเองอยู่กักตัวตนเองอยู่ภายในบ้านพัก โดยไม่ได้สัมผัสกับคนในครอบครัว

จนกระทั่ง ในวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งผลจาก รพ.พญาไท ยืนยันว่าผลเลือดเป็นบวก ติดเชื้อ โควิด-19 และจึงเข้าทำการรักษาตัวในโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก โดยรถพยาบาลได้ทำการไปรับตัวที่บ้านพัก ปัจจุบันผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง ไม่มีไข้ มีเพียงอาการเจ็บคอและปวดเมื่อยตามร่างกายเล็กน้อย ซึ่งได้รับยารักษาตามอาการ ซึ่งหลังจากทราบเรื่อง ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการประเมินผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วย โดยแยกเป็นความเสี่ยงสูง 1 ราย คือบิดาที่เดินทางไปรับกลับจากสนามบิน และความเสี่ยงต่ำ 5 ราย คือคนภายในครอบครัว และทั้ง 5 ราย ได้ กักตัวเองเพื่อดูอาการแล้ว

Avatar photo