COVID-19

พร้อม! เตรียมโรงแรมกว่า 16,000 ห้อง เดือนเม.ย. พักฟื้นผู้ป่วยโควิด-19

โรงแรมทั่วประเทศสมัครเป็น ” Hospitel ” เปิดดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ช่วงพักฟื้นแล้ว 132 แห่ง เร่งตรวจสอบคุณสมบัติ คาดขยายห้องพักฟื้นได้มากกว่า 16,000 ห้อง ภายในเดือนเมษายนนี้ ชวนโรงแรมเข้าร่วมโครงการเพิ่ม

เดอะพาลาสโซแถลงข่าว 200402 0039

สำหรับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมโรงแรมเป็นที่พักฟื้นผู้ป่วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้จัดทำแผนด้านการรักษา โดยรวมศักยภาพโรงพยาบาลภาครัฐทุกสังกัด และโรงพยาบาลเอกชน จัดการเรื่องเตียงรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น มีโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เป็นศูนย์บริหารจัดการ

และได้ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม 2 รูปแบบ คือโรงพยาบาลสนาม ที่ใช้พักฟื้นผู้ป่วยโรคโควิด-19 (Hospitel) และโรงพยาบาลสนาม ที่ใช้สังเกตอาการของผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังฯ (Hotel Isolation) รวมทั้งได้เตรียมทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการแยกกักตัวเองจากครอบครัว

สำหรับโรงแรมปริ๊นซ์ตัน และโรงแรมพาลาซโซ ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Hospitel ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยโรงแรมปริ๊นซ์ตันมีจำนวน 270 ห้อง ขณะนี้รับผู้ป่วยพักฟื้นตามเกณฑ์ กรมการแพทย์ประมาณกว่า 50 คน อยู่ห้องแยกทุกคน และโรงแรมพาลาซโซอีก 439 ห้อง

ทั้งนี้ขอความร่วมมือสังคมให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าเราจะต้องจัดที่พักให้ผู้ป่วยระหว่างการพักฟื้น และผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวัง เพื่อให้โรงพยาบาล มีเตียงพอ รับผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง และอาการหนัก เมื่อเรากักกันทั้ง 2 กลุ่มนี้ได้ จะลดการแพร่ระบาด จำนวนผู้ป่วยจะลดลง ขออย่ารังเกียจตีตรา ขอให้มั่นใจมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพราะเรามีระบบการดูแล จัดการสิ่งแวดล้อมตามหลักวิชาการ ไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เกณฑ์ ในการรับผู้ป่วยเข้าพักใน Hospitel ประกอบด้วย

1.ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 วัน

2.มีผลภาพถ่ายรังสีปอด (chest x – ray) คงที่

3.ผู้ป่วยยินดีให้ความร่วมมือ สื่อสารได้รู้เรื่อง ดูแลตนเองได้ดี ไม่ก้าวร้าว และไม่มีความเสี่ยงทางจิตเวช

5.ผู้ป่วยต้องไม่มีไข้ โรคประจำตัว ควบคุมอาการได้ดี

6.ผู้ป่วยมียามาจากโรงพยาบาลครบตามแผนการรักษา

7. โรงพยาบาลต้นทางยินดีมารับผู้ป่วยกลับเข้ารักษา หากผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง

8. มีทีมบุคลากรทางการแพทย์ดูแลติดตามอาการทุกวัน จำนวน 3-5 คนต่อผู้ป่วย 100 คน

9. ทุกห้องจะต้องมีเครื่องมือทางการแพทย์อย่างน้อย 2 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่โรงพยาบาลจะจัดให้ คือ เทอร์โมมิเตอร์แบบอัตโนมัติ และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว

เดอะพาลาสโซแถลงข่าว 200402 0007

ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวต่อว่า เกณฑ์ในการประเมินความเหมาะสมของโรงแรมในการตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม แบ่งเป็น 5 หมวด ประกอบด้วย

1.โครงสร้างอาคารและวิศวกรรม ต้องมีความปลอดภัยโครงสร้างสมบูรณ์ไม่แตกร้าว ระบบความปลอดภัยพร้อมใช้งาน ห้องพักผู้ป่วยต้องเป็นห้องปรับอากาศ แยกส่วนไม่เป็นระบบท่อส่งลมร่วมกัน

2.บุคลากร มีการจัดเตรียมบุคลากรสนับสนุน ที่ผ่านการอบรมอย่างถูกต้อง เหมาะสมในการให้บริการ

3.มีความเพียบพร้อมของเครื่องมือทางการแพทย์ วัสดุ อุปกรณ์สำนักงาน และอื่น ๆ

4.มีการจัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ไว้ให้บริการอย่างเหมาะสม

5.การจัดการสิ่งแวดล้อม และเป็นมิตรกับชุมชน มีระบบการจัดการขยะติดเชื้อ การบำบัดน้ำเสีย การกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ได้มาตรฐาน

โดยขณะนี้ มีโรงแรมทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมแล้ว 132 แห่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าจะขยายจำนวนห้องพักฟื้นผู้ป่วย และผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังได้มากกว่า 16,000 ห้อง

ทั้งนี้ เมื่อโรงแรม ผ่านการประเมินตนเองครบทุกข้อกำหนดในทุกหมวดแล้ว จะมีการจัดทำ Shopping List ให้โรงพยาบาลได้เลือกจับคู่กับโรงพยาบาลสนาม ที่มีระยะการเดินทางใกล้กัน เพื่อนำผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อยหลัง จากเข้ารับการรักษาพยาบาล จากสถานพยาบาลเข้าพักฟื้น

ขอเชิญชวนผู้ประกอบการโรงแรม ที่สนใจจะเข้าร่วมลงทะเบียน ผ่านเว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (www.hss.moph.go.th) พร้อมประเมินตนเองตามเกณฑ์ที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินโควิด-19 กรม สบส. โทร. 02 193 7024, 7059, 7097 ในวัน และเวลาราชการ

Avatar photo