ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี หรือตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา โดยในช่วงเปิดซื้อขายวันนี้ (30 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ดิ่งลงไปอยู่ในระดับต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะขยับขึ้นเล็กน้อย เคลื่อนไหวล่าสุดที่ระดับ 20.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วราว 6.5% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 6.4% มาอยู่ที่ 26.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การร่วงลงครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนมีความรู้สึกในด้านลบมากขึ้นเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันในตลาดโลก หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ สถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ ประเมินว่า ความต้องการน้ำมันในสัปดาห์นี้ จะร่วงลงราว 26 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือลดลงประมาณ 25% ในช่วงเกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 ]
เอ็ดเวิร์ด มาร์แขล เทรดเดอร์โภคภัณฑ์ จากโกลบอล ริสค์ แมเนจเมนท์ แสดงความเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ของตลาด ที่เชื่อว่า ความต้องการน้ำมันจะร่วงลงไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับสู่ภาวะปกตินั้น ทำให้ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับปัจจุบันนี้ ยังคงสูงเกินไป
ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย 2 ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ในเรื่องราคาน้ำมัน ก็ยังมองไม่เห็นทางที่จะยุติลงในเร็ววันนี้ ก็ยิ่งทำให้ตลาดมีปัจจัยลบมากขึ้น
ทางด้านสถานการณ์ในตลาดหุ้นสหรัฐ ช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ปรับตัวสูงขึ้น จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ให้ความหวังไว้ว่า ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจนั้น ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สภาคองเกรส ไฟเขียวมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ผ่อนคลายนโยบายแบบเหนือความคาดหมาย ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนีหุ้นขยับสูงขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 21,992.29 จุด เพิ่มขึ้น 355.51 จุด หรือ 1.64% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,585.54 จุด ขยับขึ้นมา 44.07 จุด หรือ 1.73% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 7,674.07 จุด บวก 171.69 จุด หรือ 2.29%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขยายช่วงเวลาในการแนะนำให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ข้อปฏิบัติดังกล่าว รวมถึงการแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการชุมนุมเกิน 10 คน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้าน หลีกเลี่ยงการซื้อของนอกบ้าน และให้เด็กเรียนหนังสือจากที่บ้าน
ผู้นำสหรัฐ ยังยืนยันความตั้งใจที่จะผลักดันให้มีการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งภายในเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในวันที่ 1 มิถุนายน