Business

เปิดโผกลุ่มธุรกิจแกร่ง ‘ชนะตลาด’ ในยามวิกฤติ 

เป็นที่รู้กันดีว่าเศรษฐกิจตอนนี้กำลังวิกฤติไปทั่วโลก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องหยุดชะงักกันเป็นแถวๆ  เรื่องนี้ลุกลามมาถึงตลาดทุน ซึ่งดัชนี SET Index นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไวรัสระบาด ก็ค่อยๆ ซึมลงเรื่อยๆ จนเกิดเหตุการณ์ Circuit Breaker หยุดพักการซื้อขายชั่วคราวถึง 3 ครั้งในรอบเดือนมีนาคม 2563  

อย่างไรก็ดี ในวิกฤติใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เพราะมีหลายธุรกิจเช่นกัน ที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง แถมคว้าโอกาสเติบโตท่ามกลางสถานการณ์ตอนนี้ได้ อย่างเช่น โรงพยาบาล ประกันภัย อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงธุรกิจกลุ่มเดลิเวอร์รี่ เป็นต้น

ผลตอบแทนหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี ติดลบ 28.7%

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลนับแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2563 พบว่า ผลตอบแทนรวม (Total return) ของ SET Index นั้นติดลบอยู่ที่ 28.7%  ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากในรอบหลายสิบปี

ถึงอย่างนั้น แม้หุ้นภาพรวมตลาดจะตก แต่ก็มีหลาย Sector เช่นกันที่ทำผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดในช่วงที่ผ่านมา และเริ่มมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน แม้ปัจจุบันจะยังมีตัวเลขติดลบอยู่ก็ตาม แต่ก็เป็นอัตราส่วนที่น้อยกว่า SET Index โดยมีด้วยกันทั้งหมด 8 Sector ดังนี้

หุ้น1 3

1.Food & Beverage Producer 

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -10.6% 

2. Home & Office Product

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -15.1%

3. ICT

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -16.2%

4. Agribusiness

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -17%

5. Fashion

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -17.1%

6. Insurance

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -20.1%

7. Health Care Services

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -20.4%

8. Commerce

ผลตอบแทนรวม (Total Return) -23.6% 

จะเห็นว่าแม้กลุ่มธุรกิจข้างต้นจะสามารถชนะตลาดได้ แต่ผลตอบแทนก็ยังเป็นลบอยู่ ซึ่งเป็นการสะท้อนว่าภาพรวมตลาดตอนนี้แย่มากจริงๆ อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาความเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหุ้นในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา เริ่มมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นแล้ว ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมตามรูปด้านล่าง

หุ้น3 1

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้เป็นต้องการชี้นำว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะสามารถพลิกกลับมาเป็นบวก หรือสร้างผลตอบแทนดีเยี่ยมในช่วงเร็วๆ นี้ ซึ่งผู้ลงทุนควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูงแบบนี้

ข้อมูลจาก : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

Avatar photo