ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (30 มี.ค.) ปรับตัวลงทั้งภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า ภาวะ “ล็อกดาวน์” ทั้งปิดประเทศ และปิดเมือง ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ จะยืดเยื้อออกไปอีกเป็นเดือน จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างประเมินค่าไม่ได้
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดมาอยู่ที่ 18,762.70 จุด ร่วงลง 626.73 จุด หรือ 3.23% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 23,126.57 จุด ลดลง 357.71 จุด หรือ 1.52% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,732.34 จุด ลดลง 39.87 จุด หรือ 1.44% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 2,428.78
-99.98 -3.95%
นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ยังคงคาดการณ์ถึงเศรษฐกิจโลกที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ทั้งที่มีสาเหตุมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากมาตรการต่างๆ ที่ถูกนำออกมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยล่าสุด วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐรายนี้ คาดการณ์ว่า จีดีพีโลก ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อาจดิ่งลงถึง 10.5%
ตลาดยังเต็มไปด้วยความผันผวน ท่ามกลางความไม่แน่ใจของนักลงทุนว่าจะเข้าซื้อ หรือเทขายหุ้นตัวไหนดีในช่วงใกล้สิ้นไตรมาสแรกของปี
ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานข้อมูลล่าสุดว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 720,117 ราย และยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 33,925 ราย
รายงานของ CSSE ยังระบุด้วยว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดที่ 140,886 ราย รองลงมาคืออิตาลี 97,689 ราย, จีน 82,122 ราย, สเปน 80,110 ราย ส่วนเยอรมนีมียอดผู้ติดเชื้อขณะนี้อยู่ที่ 62,095 ราย
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศขยายช่วงเวลาในการใช้แนวทางปฏิบัติให้ประชาชนทั่วประเทศ เว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
