Politics

รายแรก! เจอนศ.สาวติดโควิดอยู่กทม.ปาร์ตี้เลี้ยงรุ่น 2 ร้านก่อนกลับบ้านหลังสวน

ผู้ว่าฯ ชุมพร แถลงข่าวพบรายแรกของจังหวัด เป็นนักศึกษาสาวติดโควิด อยู่ที่กทม.ปาร์ตี้เลี้ยงรุ่น 2 ร้านก่อนกลับบ้านอ.หลังสวน รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหลังสวน

วันนี้ (28 มี.ค.) นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และนายจิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 21 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 (SARA-COV-2) เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 เวลา 22:00 น.

ผู้ว่าชุมพร11

โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหลังสวน และจากกรณีดังกล่าวได้ดำเนินการสอบสวนโรคกับบุคคลไกลชิด ได้แก่ผู้ที่โดยสารมากับรถ จำนวน 8 ราย และครอบครัวผู้ป่วยจำนวน 2 ราย รวมทั้งหมด 10 ราย ขณะนี้ได้ดำเนินการกักตัว พร้อมส่งตรวจสอบหาเชื้อโควิด-19

นายจิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น พบว่า

เมื่อวันที่ 8 มีนาคมถึงวันที่ 16 มีนาคม ไปเรียนตามปกติที่มหาวิทยาลัย มีกิจกรรมเลี้ยงรุ่นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และสถานบันเทิงหลังมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ในกทม.

วันที่18 มีนาคม เดินทางกลับชุมพร โดยรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 ออกจาก กทม. เวลา 22.00 น.

วันที่19 มีนาคม เดินทางถึงสถานีขนส่ง อำเภอเมืองหลังสวน เวลา 06.00 น. บิดามารับจากสถานีขนส่ง เข้าพักที่บ้าน ซึ่งมีคนพักอาศัยรวม 3 คนในครอบครัว มีบิดา มารดาและผู้ป่วย ซึ่งตนเองได้รายตัว และเข้าระบบเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัดต่อมา

วันที่ 22 มีนาคม เริ่มมีอาการป่วย

วันที่ 26 มีนาคม เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลังสวน เป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ

วันที่ 27 มีนาคม เวลา 22.00 น. ผลการตรวจ พบเชื้อ โควิด-19

วันที่ 28 มีนาคม ผู้ป่วยยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหลังสวน เวลา 12.00 น. ผู้ป่วยไม่มีไข้ มีอาการไอและปวดเมื่อยตามตัวเล็กน้อย ขณะนี้อยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมแพทย์ผู้รักษา

ด้านนายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่าขณะนี้พบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดชุมพร ซึ่งจากระบบที่ทางจังหวัดได้ดำเนินการตั้งแต่ต้น ทำให้ค้นพบผู้ป่วยรายนี้ และได้นำเข้าสู่กระบวนการที่ได้กำหนดไว้ ครบถ้วน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยหลังจากนี้จะใช้มาตรการที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องการคงระยะห่างในสังคมให้มากขึ้น และมีมาตรการเด็ดขาด

สำหรับข้าราชการและประชาชนไม่ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู่การแพร่ระบาดเพิ่มเติม มาตรการต่อมา เร่งค้นหาผู้ป่วยให้เจอโดยเร็ว ด้วยระบบการตรวจสอบคนเข้าออกนอกพื้นที่ทั้ง 8 จุด ได้แก่ทางรถ เรือ รถไฟ และเครื่องบิน ซึ่งใช้ระบบการรายงานเข้าสู่ถังข้อมูล ยิ่งเจอเร็วมากเท่าไหร่ยิ่งจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ทันท่วงที มาตรการสอบสวนโรค ในเชิงลึก และควบคุมคนที่สัมผัสกับผู้ที่เป็นโรค และมาตรการสุดท้าย ต้องรักษาผู้ป่วยให้หายขาดให้ได้ ไม่ให้มีผู้เสียชีวิต

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight