จากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้จะยังไม่มีการ ประกาศเคอร์ฟิว แต่ได้มีมาตรการสำคัญที่จะช่วยควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยได้สรุปประเด็นที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนทั่วไปได้เข้าใจแบบง่ายๆดังนี้
1. ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ตามที่กำหนดไปก่อนหน้านี้
2.ปิดการให้บริการสถานที่เสี่ยง ซึ่งมีคนจำนวนมาก เช่น
– สนามมวย สนามกีฬา สนามเด็กเล่น (ทุกจังหวัด)
– ผับ สถานบริการ สปา สถานบันเทิง สถานที่แสดงมหรสพ (กทม.และปริมณฑล)
– แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ห้างสรรพสินค้า ตลาด พิพิธภัณฑสถาน จะมีการพิจารณาตามความเหมาะสมโดยผู้ว่าราชการจังหวัด
3.ปิดการใช้ยานพาหนะเข้าประเทศทั้งทาง บก เรือ อากาศ
– ยกเว้นผู้มีเหตุจำเป็นตามข้อกำหนด
4. ห้ามกักตุนสินค้าประเภทยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม และสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค
5. ห้ามชุมนุม หรือทำกิจกรรมมั่วสุม
6. ห้ามเสนอข่าวเท็จ ข่าวที่อาจทำให้เข้าใจผิด หรือทำให้หวาดกลัว
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงไม่ออกจากบ้าน ยกเว้นมีความจำเป็น เช่น พบแพทย์ ขึ้นศาล โดยแบ่งกลุ่มเสี่ยง เป็น 3 กลุ่มดังนี้:
– ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป
– ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมมอง โรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้
– เด็กเล็กกว่า 5 ปีลงมา
7. หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด แต่หากจำเป็น ต้องผ่านการคัดกรองตามมาตรการของทางรัฐ เพื่อการติดตามอาการหรือกักกันตัว
- กักตัว 28 พนักงาน ‘รถไฟฟ้าสายสีม่วง’ เหตุใกล้ชิดเจ้าหน้าที่ติดไวรัสโควิด
- อัพเดทสถานการณ์ ‘ไวรัสโควิด-19’ วันที่ 26 มีนาคม 2563
- ญี่ปุ่นจ่อตั้ง ‘สำนักงานใหญ่โควิด-19’ วันนี้ เชื่อเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉิน