หลังจากที่นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ออกมาระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการทางการเงินอื่นผ่านสมาคมและชมรมต่าง ๆ รวม 9 แห่ง มีความเห็นตรงกันว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” ได้ขยายวงกว้างไปยังประชาชนและธุรกิจในทุกภาคส่วน จึงต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามภาวะที่ยากลำบากนี้ได้ จึงตกลงร่วมกันที่จะกำหนดมาตรการขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลีสซิ่ง สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจ SMEs ซึ่งยังไม่เป็นหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน (NPL) มีผลตั้งแต่งวดการชำระหนี้ วันที่ 1 เมษายน 2563 นั้น
สำหรับแนวทางช่วยเหลือมีดังนี้ ‘แบงก์ชาติ’ แถลงมาตรการช่วยลูกหนี้สู้พิษ ‘โควิด’ ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ หลังจาก “ธปท.” ประกาศมาตรการดังกล่าว ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อสำหรับลูกหนี้ที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) ทันที
- ลูกค้าบัตรเครดิต ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 10% โดยอัตโนมัติให้เป็น 5% ในปี 2563 และ 2564 เป็น 8% ในปี 2565 และเป็น 10% ในปี 2566 โดยธนาคารฯ จะทำการปรับลดให้ลูกค้าทุกท่านตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยลูกค้าบัตรเครดิตไม่ต้องแจ้งความจำนงเป็นรายบุคคลมาที่ธนาคาร
- ลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ ลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ของธนาคาร (วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท) ที่ประสงค์จะขอเลื่อนชำระค่างวดเป็นเวลา 3 เดือน สามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
- ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ลูกค้าสินเชื่อบ้านของธนาคารฯ (วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท) ที่ประสงค์จะขอพักชำระเงินต้นเป็นเวลา 4 เดือน สามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
- ผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจรายย่อย (SME) ที่อยู่ภายใต้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาท ที่ประสงค์จะขอพักชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 4 เดือน สามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคาร
ด้าน ธนาคารยูโอบี (UOB) ระบุว่า ตั้งแต่เมษายน 2563 ธนาคารยูโอบีปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ 10% เป็น 5% สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต และ 5% เป็น 2.5% สำหรับลูกค้าแคชพลัสทุกท่านที่มีสถานะปกติ โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร ดังนี้
ลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบี
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 5% จนถึงสิ้นปี 2564
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 8% ในปี 2565
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 10% ในปี 2566
ลูกค้ายูโอบีแคชพลัส
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 2.5% จนถึงสิ้นปี 2565
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 5% ในปี 2566
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบี และยูโอบีแคชพลัสทุกท่านไม่ต้องแจ้งความประสงค์มาที่ธนาคารแต่อย่างใด
ขณะที่ “ธนาคารกรุงเทพ” ได้มีประกาศออกมาก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า
ลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิต
- ผ่อนผันลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติ 50%
- ผ่อนผันลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกิน 10%
- ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ
- ผ่อนผันให้ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้ตามยอดเรียกเก็บไม่เกิน 3 รอบบัญชี
ส่วนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล
- ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ผ่อนผันให้ปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- ปรับยอดผ่อนชำระรายเดือนลงสูงสุด 40% ไม่เกิน 24 เดือน
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ระยะเวลาหนึ่ง
- ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ
ธนาคารกสิกรไทย
- สินเชื่อบ้านกสิกรไทย และ สินเชื่อที่อยู่อาศัยอื่นที่มีหลักประกัน : ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุด 12 เดือน
- สินเชื่อบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคล : ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย ถึงรอบบัญชีเดือนธันวาคม 2563
- สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ : ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุด 12 เดือน
ธนาคารกรุงไทย : ลูกหนี้บุคคล (สินเชื่อบ้านและสินเชื่อบุคคล) พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
บัตรเครดิตกรุงไทย (KTC)
- บัตรเครดิตประเภทแพลตทินัม ลดชำระขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5% ระยะเวลาถึงสิ้นปี 2563 จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
- บัตรกดเงินสด ยังไม่เข้าร่วมโครงการ (ชำระขั้นต่ำ 3% เช่นเดิม)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล
- พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
- ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด
ลูกค้าสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย
- พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
- ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด (แล้วแต่กรณี)
ลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- พักชำระหนี้ สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
- ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด
ธนาคารทิสโก้
- ผ่อนปรนการชำระเงินต้นชั่วคราวไม่เกิน 6 เดือน
- ลดภาระการผ่อนชำระ
- ขยายระยะเวลาการชำระหนี้
- ลดค่าธรรมเนียม
ธนาคารธนชาต
สินเชื่อรถยนต์ใหม่ ,สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว และสินเชื่อรถแลกเงิน : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน (Skip payment) และ/หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 96 งวด*
สินเชื่อเล่มแลกเงิน : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 60 วัน
สินเชื่อบ้านธนชาต : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน*
สินเชื่อบุคคลธนชาต : พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน*
บัตรเครดิตธนชาต : ลดยอดชำระขั้นต่ำเหลือ 5% หรือ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน*
บัตรกดเงินสด Flash Plus ลดยอดชำระขั้นต่ำเหลือ 1% หรือ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน*
ธนาคารทหารไทย
สินเชื่อบ้าน : พักชำระหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ย) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน และเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ
สินเชื่อบัตรเครดิต : ยกเว้นการชำระยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็นเวลา 3 รอบบัญชี นับจากวันที่ลูกค้าโทรติดต่อเข้ามาแจ้งความประสงค์ โดยลูกค้าสามารถเริ่มชำระยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต ตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 เป็นต้นไป
สินเชื่อบุคคล : พักชำระหนี้ (เงินต้น ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม (ถ้ามี)) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน และเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ และขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เพิ่มขึ้นอีก 3 เดือน หรือ จนกว่าจะชำระคืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ครบถ้วน
บัตรกดเงินสด : ยกเว้นการชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 รอบบัญชี ตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 ลูกค้ากลับมาชำระหนี้ตามปกติ
ธนาคารเกียรตินาคิน
- พักชำระหนี้สูงสุด 6 เดือน
- ส่วนลดดอกเบี้ย
- ขยายระยะเวลาชำระหนี้
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์
- ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ เช่น ปลอดเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และ ขยายระยะเวลาเงินกู้ เพื่อให้ภาระการผ่อนชำระลดลงหลังหมดช่วงปลอดเงินต้น
- สนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม
- ลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าในช่วงที่มีปัญหา สูงสุดไม่้เกิน 12 เดือน โดยพิจารณาเป็นรายๆไป
ธนาคารซีไอเอ็มบี (ไทย)
- ผ่อนปรนการผ่อนชำระค่างวดชั่วคราว
- ลดภาระการผ่อนชำระ
- ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้
ธนาคารออมสิน
ลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อบัตรเงินสด (ไม่เป็นหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน) : ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิต ลดเหลือ 5% และสินเชื่อบัตรเงินสดลดเหลือ 3% (ระยะเวลา 1 มีนาคม – 31 ธันวาคม 2563)
- รวมไว้ที่นี่!! ประกันอุ่นใจสู้ ‘ไวรัสโควิด-19’
- ‘แบงก์ชาติ’ แถลงมาตรการช่วยลูกหนี้สู้พิษ ‘โควิด’ ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้
- ชัดๆ รวมมาตรการเยียวยาละเอียดยิบสู้ ‘โควิด-19’ ระยะที่ 2
* ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย **หากมีข้อสงสัยกรุณาติดต่อธนาคารของท่านเพิ่มเติม