ชาวไทยให้ความร่วมมือใส่ “หน้ากากอนามัย” ขึ้นรถไฟฟ้า 100% แต่ต่างชาติยังสบสน ด้าน “แอร์พอร์ตลิงก์” เผยพิษโควิดทำผู้โดยสารหายแล้ว 4 หมื่นคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 มี.ค.) เป็นวันแรกที่ผู้โดยสารขนส่งมวลชนระบบรางทั้งหมด ได้แก่ รถไฟ, รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว, รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์หรือหน้ากากอนามัยแบบผ้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามประกาศของกรมการขนส่งทาง (ขร.)
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า บรรยากาศช่วงครึ่งวันแรกเป็นไปด้วยดี ผู้โดยสารชาวไทยให้ความร่วมมือสูงมาก ใส่หน้ากากอนามัยเข้าระบบรถไฟฟ้า 100% แต่ผู้โดยสารต่างชาติบางส่วนไม่ทราบและไม่เข้าใจ เนื่องจากมองว่าไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องชี้แจงและทำความเข้าใจ พร้อมจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษแจ้งผู้โดยสาร
ด้านหน้ากากอนามัยฝ้ายมัสลิน ซึ่งนำมาจำหน่ายบริเวณสถานี ก็ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเช้าวันนี้จำหน่ายหมดไปแล้ว 1 ล็อต ซึ่งตอนบ่าย กรมราชทัณฑ์ก็นำสินค้าเข้ามาเติมต่อเนื่อง แต่จำกัดให้ผู้โดยสารซื้อได้ 1 ชิ้นต่อคนเท่านั้น
- เริ่มพรุ่งนี้! ผู้โดยสาร ‘รถไฟ-รถไฟฟ้า’ ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย
- ‘รถไฟฟ้า BTS’ เตรียมเยียวยาผู้โดยสารใช้ ‘ตั๋วเที่ยว’ ไม่หมด เพราะโควิด
- ครบลูป! รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิด ‘เตาปูน-ท่าพระ’ อย่างเป็นทางการ 30 มี.ค. นี้
สำหรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ล่าสุดจำนวนผู้โดยสารถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลดลง 50% จากปกติมีจำนวนมากกว่า 8 หมื่นคนต่อวัน เหลือ 4 หมื่นคนต่อวัน แต่บริษัทยังคงให้บริการด้วยความถี่และจำนวนรถสูงสุดเช่นเดิม เพื่อดำเนินการตามนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ของรัฐบาล
รายงานข่าวจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการ เพื่อนำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาจำหน่ายในเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ในทุกสถานี เพื่อลดการสัมผัสและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยคาดว่าจะดำเนินการได้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า หรืออย่างช้าไม่เกิน 1 เดือน
