Finance

ผวาโควิด-19! มองหุ้นไทยยังร่วงต่อ คาดแกว่งกรอบ 970-1,100 จุด

ผวาโควิด-19! “บล.โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยยังลงต่อ หลังประกาศ Bangkok Lockdown – Work At Home พร้อมให้กรอบ 970-1,100 จุด

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 970-1,100 จุด หลังกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกาศปิดหลายสถานที่ชั่วคราว ส่งผลให้ประชาชนที่ไม่มีงานทำเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งอาจให้เกิดการแพร่เชื้อในต่างจังหวัด ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้น ประกอบกับการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิตในโซนยุโรปและสหรัฐอเมริกาเร่งตัวขึ้นเช่นกัน และยังมีรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศต่าง ๆ ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม มาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ของสหรัฐที่อาจจะออกมาล่าช้า ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 2/63 อาจร่วงลงได้ถึง 30.1% ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์เตือนว่าอัตราว่างงานสหรัฐอาจพุ่งแตะ 30% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่แกว่งตัวผันผวนยังคงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย

คุณวิลาสินี บุญมาสูงทรง
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดสำหรับความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 24 มีนาคมนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดจะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ของไทย และญี่ปุ่นจะมีการเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.และสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนมีนาคม ส่วนสหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนมีนาคม และยอดขายบ้านใหม่เดือนกุมภาพันธ์

ส่วนวันที่ 25 มีนาคม ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเปิดเผยรายงานการประชุม ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีราคาบ้านเดือนมกราคม และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และในวันที่ 26 มีนาคม ทางธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP ในไตรมาส 4/62 และกำไรภาคเอกชนไตรมาส 4/62

ไวรัส หุ้น7321

“ตอนนี้ต้องยอมรับว่านักลงทุนแถบไม่ได้มองปัจจัยต่าง ๆ ที่เห็นว่าเป็นเรื่องบวกเลย อาทิ ค่าเงินบาทที่อ่อนลงมาจะส่งผลดีต่อการส่งออกที่พลิกขยายตัว 1.51% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เมื่อหักการส่งออกทองคำ น้ำมัน และอาวุธออกแล้วก็ตาม และล่าสุด กนง. งัดไม้ตายลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มีผล 23 มีนาคมที่ผ่านมาเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวมจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้และจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (BSF) สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และกระทรวงการคลังจะเตรียมเสนอมาตรการระยะ 2 ดูแลประชาชนที่ได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในวันนี้ ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้ต่างปรับลดสถานะ เพื่อถือเงินสดไว้เป็นหลัก”

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำว่าทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปิดสถานที่ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพฯ ชั่วคราว เช่น MAKRO, BJC, CPALL, TU, TFMAMA และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการทำงานที่บ้าน เช่น ADVANC, INTUCH, DTAC ,TRUE, JAS, JASIF, DIF, COM7, SIS และ SYNEX

ส่วนราคาทองคำ คาดว่าสัปดาห์นี้ถูกกดดันจากแรงขายในทุกสินทรัพย์เนื่องจากนักลงทุนต้องการถือเงินสดในช่วงเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าเฟดจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกมาอย่างต่อเนื่อง และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจนเหลือ 0% นอกจากนี้เฟดได้ประกาศทำข้อตกลงสว็อปกับธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเพิ่มสภาพคล่องดอลลาร์ นอกจากนี้กองทุน SPDR เริ่มทยอยขายต่อเนื่องกว่า 23 ตันในสัปดาห์ก่อนเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ จึงแนะนำกลยุทธ์ “ลงซื้อขึ้นขาย” ให้กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำ 1,560-1,607 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

Avatar photo