นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดทางบริษัทได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เต็มตัว ด้วยการเทคโอเวอร์ บริษัท ณุศา ศรีราชา ด้วยมูลค่าลงทุน350 ล้านบาท นำบริษัทดังกล่าวมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท เอสเอฟซี เวนเจอร์ ศรีราชา จำกัด ทุนจดทะเบียน 315 ล้านบาท ซึ่งแสงฟ้าก่อสร้าง ถือหุ้น 100%
บริษัทเอสเอฟซีฯ เป็นบริษัทในเครือแสงฟ้าก่อสร้าง ซึ่งเปิดตัวเพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรก คือ ยู ศรีราชา (Yuu Sriracha) พัฒนาเป็นคอนโดฯตากอากาศติดถนนสุขุมวิทและติดริมหาดศรีราชา มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่การพัฒนาจากโครงการณุศา ศรีราชา มาพัฒนาใหม่ จากเดิมพื้นที่ 11 ไร่ แบ่งเป็นสองส่วนเท่ากัน เตรียมพัฒนาคอนโดตากอากาศจำนวน 2 อาคาร เริ่มด้วย ยู ศรีราชา เป็นอาคารแรก
โครงการ ยู ศรีราชา เป็นการพัฒนาที่ดิน 5 ไร่ครึ่ง ริมถนนสุขุมวิท ต.บางพระ ศรีราชา ขึ้นเป็นอาคารชุด ความสูง 29ชั้น ติดริมทะเล เปิดขายในราคาเฉลี่ย ตารางเมตรละ 1.3 แสนบาท ประกอบด้วยห้องชุดขนาด 34-70 ตารางเมตร จำนวนทั้งสิ้น 285 ยูนิต เปิดขายในราคาขายเริ่มต้นที่ยูนิตละ 3.7 ล้านบาท ปัจจุบันมีลูกค้าที่จองซื้อมาตั้งแต่ยังเป็นโครงการณุศา ศรีราชา จำนวน 50 ยูนิต ที่เหลือจะเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลดสูงสุดมูลค่า 9 แสนบาท และลุ้นสิทธิ์จองซื้อได้ในราคา 9.9 หมื่นบาทต่อตารางเมตร จากราคาปกติ 1.3 แสนบาทต่อตารางเมตร
โครงการนี้ออกแบบตกแต่ง ภายใต้ปรัชญาเซน ที่ยึดแนวคิดกลับสู่ธรรมชาติ ความสงบเงียบ แต่มีบริการที่พร้อมสรรพเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว พื่นที่ส่วนกลางบนชั้น 4 กว่า 1,100 ตารางเมตร และออนเซ็นขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร ภายในโครงการยังออกแบบตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ที่อำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย และใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า พร้อมระบบโฮมออโตเมชั่น สมาร์ทลิฟวิ่งที่อำนวยความสะดวกกับผู้อยู่อาศัย
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายโครงการแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือมาจากคนในพื้นที่ส่วนหนึ่ง กลุ่มนักลงทุน และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย ซึ่งล่าสุดมีนักลงทุนจากจีน ติดต่อขอซื้อโครงการยกชั้น จำนวน 2 ชั้นรวมกว่า 20 ยูนิต ทั้งที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ
ชูจุดขายเมืองตากอากาศพื้นที่อีอีซี
โครงการ ยู ศรีราชาได้รับความสนใจ เพราะนอกจากการออกแบบที่เรียบหรู และตั้งอยู่บนทำเลที่ดีแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่สำคัญก็คือโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่รัฐบาลส่งเสริมและผลักดันให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุค Thailand 4.0 ซึ่งเราเห็นความเคลื่อนไหวและความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยิ่งมั่นใจในการตัดสินใจลงทุนครั้งนี้
สำหรับการก่อสร้างโครงการ ยู ศรีราชา ปัจจุบันคืบหน้าถึงชั้นที่ 10 แล้ว คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามกำหนด คือประมาณไตรมาส 3 ปี 2562 ซึ่งหลังจากโครงการนี้แล้วเสร็จ เอสเอฟซีจะขยายการพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เหลือในบริเวณเดียวกัน ขึ้นเป็นคอนโดริมหาดอีกหนึ่งโครงการ และมองโอกาสขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
นพ.เชิดศักดิ์ กล่าวว่าโครงการยู ศรีราชาเป็นโครงการแรกที่แสงฟ้าก่อสร้างลงทุนเอง 100% หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทเคยร่วมทุนโครงการพัฒนาอสังหาฯมาหลายโครงการ เช่น อาคารสำนักงานสปริงทาวเวอร์ ราชเทวี บริษัทเข้าไปถือหุ้น 15% โครงการซีเอกมัย ถือหุ้น 30% และโครงการคอร์นเนอร์ ราชเทวี ถือหุ้น 30% เช่นเดียวกัน
