เกิดเหตุแผ่นดินไหวติดต่อกันหลายครั้งในกรุงซาเกร็บ เมืองหลวงของโครเอเชีย เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 30 ราย เป็นเด็ก 1 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤติ
ศูนย์แผ่นดินไหวยุโรป-เมดิเตอร์เรเนียน (EMSC) รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งแรกขนาด 5.4 ตามมาตราริกเตอร์ เขย่าซาเกร็บในเวลา 06.24 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้วัดแรงสั่นสะเทือนได้ขนาด 5.3
ทางด้่านสื่อท้องถิ่น รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในซาเกร็บตั้งแต่ปี 2423 เป็นต้นมา ซึ่งในเวลานั้น วัดแรงสั่นสะเทือนได้ขนาด 6.3
รายงานระบุว่าแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นตามมาอีกกว่า 30 ครั้งระหว่างวัน โดยครั้งรุนแรงที่สุดวัดได้ที่ขนาด 5.0 ตามมาตราริกเตอร์ ในเวลา 07.01 น. ตามเวลาท้องถิ่น
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้กรุงซาเกร็บได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเขตอัปเปอร์ ทาวน์ (upper-town) ซึ่งเป็นย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยอาคารหลายสิบแห่งพังถล่มลงมา รวมทั้งรถยนต์ที่จอดอยู่ตามท้องถนนถูกก้อนอิฐตกลงมาทับจนได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ หอคอยบางส่วนของมหาวิหารซาเกร็บ (Zagreb Cathedral) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 พังถล่มลงมา ซึ่งหอคอยนี้ เคยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวในปี 2423 ขณะที่อาคารรัฐสภาได้รับความเสียหายเช่นกัน ทำให้การประชุมรัฐสภาครั้งถัดไปจะจัดขึ้นที่สถานที่อื่นแทน
นายกรัฐมนตรีอันเดรย์ เพลนกอวิช ของโครเอเชีย กล่าวว่าโครเอเชียจะขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (EU) หลังประเมินขอบเขตความเสียหายได้แล้ว
ด้านนายดาวอร์ โบนิโนวิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน เผยว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ประชาชนที่ตื่นตกใจต่างออกมารวมตัวกันตามท้องถนน ซึ่งจะสร้างความยุ่งยากในการดำเนินมาตรการต่อต้านโควิด-19 เพิ่มขึ้น
เขากล่าวว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศ พร้อมเสริมว่าจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม อาทิ จำกัดการเดินทางระหว่างเมือง และปิดตลาดทุกแห่ง โดยขณะนี้โครเอเชียพบผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผล 254 ราย จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (22 มี.ค.)
ที่มา : Xinhua Thai