World News

‘เอเชีย’ รับมือ ‘โควิด-19’ ระบาดระลอกสอง พลเมืองพากลับจากต่างแดน

จีน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นส่วนหนึ่งของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียที่กำลังเผชิญการแพร่ระบาดระลอกสองของโรคโควิด-19 โดยการระบาดครั้งนี้มาจากผู้คนที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากต่างแดน กลับเข้ามาในประเทศอีกครั้ง

beii12356

เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา จีน ประเทศที่พบไวรัสโควิด-19 เป็นแห่งแรกของโลก ยืนยันว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศเป็นครั้งแรก นับแต่ที่เริ่มมีการบันทึกจำนวนผู้ติดเชื้อในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่จีนกลับพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 34 ราย ทั้งหมดมาจากกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

ในวันเดียวกันนั้น สิงคโปร์รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 47 ราย ในจำนวนนี้มีมากถึง 33 ราย ที่มาจากต่างแดน โดยเป็นผู้พำนักอาศัยในสิงคโปร์ที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศถึง 30 ราย

ส่วนเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นถึง 152 คน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศกี่ราย ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่พบในสถานดูแลพยาบาลคนชราเมืองแทกู ซึ่งมีการยืนยันผู้ติดเชื้อถึง 74 ราย

จนถึงวันนี้ จีนยืนยันว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสในจีนมา 4 วันติดต่อกันแล้ว และเริ่มอนุญาตให้ชาวอู่ฮั่น ที่ถูกกักโรคอยู่ต่ในบ้านนานกว่า 6 สัปดาห์ ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้บ้างแล้ว ตราบใดที่ไม่มีการจับกลุ่มกันในที่สาธารณะ ห้างร้านและกิจการบางแห่งก็สามารถกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติได้แล้ว โดยในเขตที่ทางการประกาศว่า “ปลอดการระบาด” ตลาดแห่งเล็ก ๆ และร้านสะดวกซื้อต่างก็เปิดการค้าขายอีกครั้ง

กรณีของทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการควบคุมโรคระบาดภายในประเทศ แต่ก็ยังมีความกังวลกันว่า การแพร่ระบาดในอัตราที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในภูมิภาคอื่นของโลก อาจทำให้ความสำเร็จเบื้องต้น และความคืบหน้าไปสู่การฟื้นฟูสภาพสังคม และเศรษฐกิจต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งขึ้นมาใหม่ ในช่วงเวลาที่ผู้คนจากต่างแดน กำลังเดินทางกลับมาบ้านของตัวเองในเอเชียอย่างต่อเนื่อง

ความกังวลที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้หลายประเทศในเอเชีย เพิ่มมาตรการควบคุมการเดินทางให้เข้มงวดขึ้น ในช่วงเวลาที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในภูมิภาค ทะยานขึ้นเกิน 95,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก

จีนยังคงมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศอยู่ โดยได้เปิดทำการโรงพยาบาลที่เคยใช้รักษาโรคซาร์ส (SARS) ในกรุงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นสถานที่กักกันกลุ่มผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเหล่านี้ ทั้งยังสั่งกักโรคทุกคนที่เดินทางมาจากทุกประเทศนาน 14 วัน โดยล่าสุดนับถึงเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) จีนมียอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มนี้ อยู่ที่ 314 คนแล้ว

ส่วนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องสวมใส่สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวหลังเข้ามาบนเกาะฮ่องกง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่ผู้คนเดินทางกลับมายังศูนย์กลางการเงินแห่งนี้มากขึ้น

ขณะที่ สิงคโปร์ออกคำสั่งแบนผู้มาเยือนระยะสั้นทั้งหมด หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 445 คน รวมถึง 2 รายที่เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 มี.ค.)

Avatar photo