ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สนามบินหลายแห่งในสหรัฐ ตกอยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัด ในบริเวณด่านตรวจผู้โดยสารขาเข้า จากการที่ชาวอเมริกันจำนวนมาก พากันเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ในวันสุดท้าย ก่อนที่สหรัฐจะห้ามการเดินทางจากยุโรปเข้าประเทศ เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ภาพผู้คนที่เบียดเสียดต่อแถวกันยาวเหยียด เรียกเสียงวิจารณ์ และโจมตีรัฐบาลสหรัฐอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกว่า จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมากขึ้น
นายเจ.บี.พริตซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ และนายลอริ ไลท์ฟุท นายกเทศมนตรีนครชิคาโก พากันออกมาตำหนิรัฐบาลสหรัฐ ที่ปล่อยให้ชาวอเมริกันราว 3,000 คน ที่เดินทางกลับมาจากยุโรป ต้องตกค้างอยู่บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองนานหลายชั่วโมง ที่สนามบินนานาชาติโอแฮร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 มี.ค.) ซึ่งเป็นการละเมิดคำแนะนำของรัฐบาลกลางที่ให้ผู้คนเว้นระยะห่างระหว่างกัน
ผู้โดยสารที่ส่วนใหญ่เร่งเดินทางกลับมายังสหรัฐ เพราะกังวลว่าจะต้องตกค้างอยู่ในยุโรป ต้องผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากสนามบิน
ไม่ใช่แค่ที่โอแฮร์ แต่ที่บอสตัน ดัลลัส และสนามบินอื่นๆ อีก 13 แห่งทั่วสหรัฐ ซึ่งรองรับเที่ยวบินจากยุโรป ก็เจอสภาพเดียวกันนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ก่อนที่สถานการณ์จะดีขึ้นในวันถัดมา แต่ก็เพียงแค่ไม่นานนัก เพราะจำนวนผู้โดยสารที่กลับมาเพิ่มขึ้น จากจำนวนเที่ยวบินที่เข้ามามากขึ้น
“ผู้คนถูกบีบให้ต้องอยู่ในสถานการณ์ ที่ตรงข้ามกับคำแนะนำ และเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เลย” ไลท์ฟุท กล่าว
- ‘ยูเอ็น’ เตือนคนตายหลายล้าน ถ้าปล่อย ‘โควิด-19’ ระบาดแบบไร้ตรวจสอบ ทั่วโลกดับเกิน 10,000 แล้ว
- ‘อิตาลี’ แซงหน้า ‘จีน’ เสียชีวิต ‘โควิด-19’ มากสุดในโลก
- ‘กพท.’ ออกประกาศใหม่ ทั่วโลกเดินทางเข้าไทยต้องมี ‘ใบรับรองแพทย์’