Politics

‘หมอธีระวัฒน์’ ถามจะเอาโมเดลไหน? รอให้คนติดครึ่งประเทศ เพื่อมีภูมิคุ้มกันหมู่

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า “ครึ่งประเทศรอให้ติด เพื่อมีภูมิคุ้มกันหมู่จะเอาโมเดลไหน?”

(ภาคธุรกิจขนาดใหญ่เท่าที่ทราบ พร้อมเข้าช่วยรัฐบาลในช่วงปิด 21 วัน โดยกฎอัยการศึก และคนรายได้น้อยต้องไม่ถูกกระทบ)

ถ้าคนอย่างน้อยครึ่งประเทศติดเชื้อ ถ้าไม่ตายไปเสียก่อน ก็จะมีภูมิคุ้มกัน และเริ่มทำให้ประเทศปลอดภัย จำได้หรือไม่วิธีการเช่นนี้คือวิธีการเดียวกันกับที่เราต้องฉีดวัคซีน ให้หมาทั่วประเทศอย่างน้อย 60% เพื่อควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า นั่นคือการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity)

ใน covid 19 เมื่อติดเชื้อ คน 80% อาการน้อยหายเอง และจะเป็นหนุ่มสาวที่ไม่มีโรคประจำตัวแต่กลายเป็นคนแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ (แต่เจอจังๆ ตายได้) 20% ที่เหลือมักจะเป็น คนสูงอายุ 65 ปี ขึ้นไปมีโรคประจำตัว ถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล อัตราตายอาจสูงถึง 20-50% ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง

โมเดล

1- ถ้าปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติตามยถากรรม ไม่มีการควบคุมและแน่นอนไม่มีทรัพยากรในการรักษาได้ทั่วถึง จะสงบได้โดยเร็วแต่เสียชีวิตมหาศาล ระบบสาธารณสุขย่อยยับ เจ้าหน้าที่เสียหายมหาศาล

2- ควบคุมเท่าที่จะทำได้ตามระดับ โดยหวังให้ประชาชนมีวินัย งดการชุมนุม รวมกลุ่ม สถานบริการสถานบันเทิงรวมทั้งควบคุมโรงงานมีการทำงานแออัดงดเทศกาลทุกชนิด ป้องกัน จำกัดการแพร่ในที่สาธารณะ

2.1 ควบคุมอย่างเข้มงวดโรคจะไหลไปเอื่อยๆ จนประมาณเจ็ดถึงเก้าปีหรือเมื่อมีวัคซีน แต่หมายความว่าทุกคนจะต้องถือสันโดษตลอด

2.2 ควบคุมได้ระดับหนึ่งไม่เท่ากับ 2.1 โรคจะปะทุขึ้นอย่างรุนแรงภายในสองปี และสงบเพราะในแต่ละเดือนจะต้องยอมให้เกิดคนติดเชื้อ 30 ล้าน คน หารด้วย 24 เดือน แต่ละเดือนจะมีคนติดเชื้อ เป็นแสน และความเสียหายจะเห็นได้แบบเดียวกับข้อหนึ่ง แม้จะน้อยกว่าบ้าง

3- มาตรการเข้มปิดบ้าน ปิดประเทศ shelter in place 21 วัน พันระยะฟักตัว และระยะแพร่เชื้อ สำหรับคนที่มีอาการน้อย ซึ่งจะหายเองทั้งหมดโดยไม่ต้องมีการรักษาใดๆ แต่ถ้าอาการมากก็รีบรับตัวเค้าไปรักษาที่โรงพยาบาล มาตรการนี้ทำสำเร็จในประเทศจีน แม้ว่าจะทำหลังจากที่มีการระบาดมหาศาลในประเทศแล้วก็ตาม

มาตรการนี้จะทำให้ประเทศสะอาด และกลับมาดำเนินชีวิตมีเทศกาลได้ “ใกล้เคียงแต่ไม่ถึงกับปกติ” ภายในเวลาอันรวดเร็วโดยยังต้องมีระยะห่าง 2 เมตรทั้งการทำงานในสถานที่ทำงาน ในโรงงานในรถโดยสารสาธารณะแต่ทำให้มีความเชื่อมั่นจากทั้งในและนานาประเทศและสามารถที่จะเลือกนักท่องเที่ยวจากพื้นที่ใดก็ได้

มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการที่ทำไม่ได้ทางเพราะภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้คำแนะนำและช่วยรัฐบาลอย่างเต็มที่ในขณะที่ดำเนินการอยู่ และต้องคำนึงถึงคนที่หาเช้ากินค่ำเป็นอันดับแรก

ประการสำคัญก็คือ มาตรการนี้หลังจาก 21 วัน จะมีกระบวนการตรวจคนที่ติดเชื้อไปแล้ว หรือคนที่ติดเชื้อใหม่ได้อย่างรวดเร็วและราคาถูกกว่าที่ปฏิบัติกันอยู่ ณ ขณะนี้ และก้น ไม่ให้มีระลอกที่สองที่สามเกิดขึ้นมาอีก

สู้ร่วมกัน ไม่งมงาย ศึกษาข้อมูล
รักทุกคน

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight