นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ ได้รายงานว่ากัมพูชาเตรียมพิจารณาจำกัดปริมาณการนำเข้ารถใช้แล้ว โดยขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ เพื่อจำกัดปริมาณรถเก่า และดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์จากต่างประเทศ
ทั้งนี้เพื่อช่วยในการรักษาสภาพแวดล้อม และความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน คาดว่ารัฐบาลกัมพูชาจะเริ่มดำเนินการตามนโยบายนี้โดยขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วที่ผลิตก่อนปี 2000 และต้องตรวจสภาพหลังการเสียภาษี จากนั้นรถเก่าจะถูกตรวจสภาพบ่อยขึ้นกว่ารถใหม่
คาดภาษีใหม่เกิดขึ้นปีหน้า
ทั้งนี้ คาดว่าการเตรียมประกาศขึ้นภาษีรถยนต์ใช้แล้ว อาจจะประกาศได้ปี 2562 เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้เตรียมตัวซื้อรถยนต์
“หากกัมพูชาประกาศขึ้นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์เก่าใช้แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อไทย เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถปิกอัพหลายยี่ห้อในภูมิภาคนี้ น่าจะมีความได้เปรียบประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ด้านต้นทุนโลจิสติกส์การขนส่งรถยนต์ไปยังกัมพูชา จะส่งผลให้ไทยส่งออกรถยนต์ไปยังกัมพูชาได้เพิ่มขึ้น”นางจันทิรา กล่าว
ปัจจุบัน กัมพูชานำเข้ารถยนต์โดยเฉลี่ย 6,000 คันต่อเดือน ในจำนวนนี้เป็นการนำเข้ารถยนต์ใหม่ 15% ของการนำเข้าทั้งหมด โดยรถยนต์ใช้แล้วที่เป็นที่นิยมของชาวกัมพูชา คือ Lexus และ Toyota Camry ส่วนราคาสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้วประมาณ 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 10,000-18,000 ดอลลาร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพและอายุการใช้งานของรถยนต์
ภาษีนำภาษีนำเข้ารถกัมพูชาปัจจุบัน
สำหรับภาษีนำเข้ารถยนต์ของกัมพูชาปัจจุบัน ขนาดความจุกระบอกสูบต่ำกว่า 2,000 ซีซี และ 2,000-3,000 ซีซี ภาษีนำเข้า 35% Special Tax 60% ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% ตั้งแต่ 3,000 ซีซีขึ้นไป ภาษีนำเข้า 35% Special Tax 70% และภาษี VAT 10% รถยนต์โดยสารสำหรับ 10 คนขึ้นไป และรถยนต์บรรทุกสินค้า ภาษีนำเข้า 15% Special Tax 40% ภาษี VAT 10%
ข้อมูลสถิติการค้า ปี 2560 ไทยส่งออกไปยังตลาดโลก กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 12 และเป็นอันดับ 6 ในอาเซียน สำหรับการค้าระหว่างไทย – กัมพูชา ปี 2560 มีมูลค่ารวม 209,821 ล้านบาท เป็นมูลค่าส่งออกไปยังกัมพูชา 179,082 ล้านบาท และนำเข้า 30,739 ล้านบาท ไทยได้เปรียบดุลการค้า 148,343 ล้านบาท และตัวเลขการค้า 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปี 2561 ไทยส่งออกไปยังกัมพูชา มีมูลค่า 88,009 ล้านบาท สูงขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สินค้าส่วนใหญ่ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องดื่ม รถยนต์ /รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย เครื่องยนต์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ปูนซิเมนต์ เป็นต้น
ขณะการผลิตรถยนต์เวียดนามเริ่มฟื้นตัว
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่ากระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) แจ้งว่าปริมาณรถยนต์ที่ผลิตในประเทศในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 23,200 คัน เพิ่มขึ้น 31.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2560 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคมปริมาณการผลิตรถยนต์ประมาณ 140,800 คัน เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ตามที่สถาบันนโยบายยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม (IPSI) สังกัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม คาดว่า ในปี2561-2568 การผลิตรถยนต์ในประเทศจะมีการเติบโตเฉลี่ย 18.5% ต่อปีแต่ในปี 2568- 2578 จะลดลงเหลือ13.8% ต่อปีการผลิต รถยนต์คาดว่าจะมีปริมาณถึง 531,585 คันภายในปี 2568 และ 1.77 ล้านคันภายในปี 2578
ด้านการนำเข้าหลังจากที่มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดของพระราชกฤษฎีกาที่ 116/2017 / NĐ-CP ซึ่งกำหนดเงื่อนไขในการผลิตประกอบการนำเข้า ธุรกิจเกี่ยวกับการรับประกันรถยนต์และบริการบำรุงรักษาที่ออกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ช่วงครึ่งหลังของปี 2560 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561
ก.ค.นำเข้ารถสูงสุด 5.7 พันคัน
จากสถิติจากกรมศุลกากรเวียดนามระบุว่า เวียดนามมีการนำเข้าเกือบ 5,700 คัน ในเดือนกรกฎาคม2561 เป็นปริมาณการนำเข้าที่สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนของปี 2561 รถยนต์ส่วนใหญ่นำเข้าจากไทย อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ แต่เวียดนามยังนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากญี่ปุ่นเกาหลีใต้ไทยอินโดนีเซียและอินเดีย
ขอบคุณภาพ: เฟสบุ๊ก 669 MHH Auto Sho และ เวบไซต์ khmertimeskh
