จากแรงกดดันทางธุรกิจ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้หลาย ๆ กิจกรรม โดยเฉพาะการทำธุรกิจส่งออกได้รับผลกระทบและความเสียหายในระดับที่ประเมินค่าไม่ได้
สถานการณ์ดังกล่าว ยังส่งผลให้การค้าในหลาย ๆ ประเทศต้องหยุดชะงัก การผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ ต้องชะลอกำลังลง ลามไปถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่ลดน้อยถอยลง
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องอยู่ในภาวะวิตกจนเกินไป สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงมีเทคนิคดี ๆ มาแชร์ให้กับผู้ทำธุรกิจพร้อมกับการตั้งรับสถานการณ์โควิด-19 และใช้เวลาในช่วงสถานการณ์นี้อย่างถูกวิธี ดังนี้
- เรียนรู้เทคนิคการทำการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดย NEA มีหลักสูตรต่างๆ บนแพลตฟอร์ม NEA.ditp.go.th เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ทริคต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำการค้าในโลกธุรกิจยุคใหม่ เช่น วิชาวิดีโอมาร์เก็ตติ้ง, วิชาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งออก, กลุ่มวิชา New Economy Foundation เช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการค้าระหว่างประเทศ, วิชาการจัดทำแผนธุรกิจการค้ายุคใหม่เพื่อการส่งออก เป็นต้น
- ติดตามข่าวให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่สุดสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศเสี่ยง อาทิ จีน เอเชีย ยุโรป สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง ที่ควรจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงศึกษาเส้นทางการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยรอบ และนำมาวิเคราะห์สถานการณ์และหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่เสี่ยง
- ชะลอการผลิตสินค้าบางส่วน เพื่อลดปัญหาการสต็อกสินค้าเกินจำเป็น และไม่ผลิตสินค้ามากเกินความจำเป็นกว่าความต้องการของตลาดในกลุ่มประเทศเสี่ยง รวมถึงช่วยลดต้นทุนสินค้าฟุ่มเฟือย ในภาวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว ทวีความรุนแรงและลุกลามไปยังประเทศใหม่ๆเพิ่มขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์แต่ละประเทศว่า มีสินค้าที่มีความต้องการในการตอบสนองความต้องการในประเทศได้อย่างเพียงพอมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่เป็นการขาดดุลการส่งออกสินค้าในบางประเภท
- เร่งทำการตลาด ส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น หลายปีที่ผ่านมาหลังจากเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น ส่งผลให้เห็นว่า ภาพรวมของตลาดออนไลน์ของสินค้าต่างๆยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสินค้าบางประเภทที่กำลังเติบโตไม่หยุด เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความต้องการจากตลาดสูง อาทิ เจลล้างมือ อาหารสำเร็จรูป ข้าวถุง สบู่ กระดาษทิชชู จากปัจจัยการแพร่ระบาดดังกล่าว แต่ก็ยังคงมีสินค้าบางประเภทที่ยอดขายลดลง และจำเป็นอย่างยิ่งในการประขาสัมพันธ์และสร้างช่องทางใหม่ๆ ด้านการขายให้เพิ่มขึ้น
- เรียนรู้ตลาดทางเลือกใหม่ๆด้วยระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศทางเลือกเพิ่มขึ้น หลังจากวิกฤตดังกล่าวผ่านพ้นไปแล้วนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรปรับตัวในช่วงสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่นั้นให้เป็นประโยชน์ ด้วยการศึกษาหาข้อมูลและเข้าร่วมอบรมและสัมมนาผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการรับชมถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดการค้าทางเลือก อาทิ ตลาดซีแอลเอ็มวี อินเดีย ตลาดแอฟริกา เป็นต้น
นอกจากนี้ NEA ยังมีแผนการจัดทำโครงการ Live Streaming หรือการถ่ายทอดสดโครงการอบรมและสัมมนาต่างในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ที่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปร่วมงาน และถือเป็นการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวอีกด้วย
- ‘ดีแทค’ ปรับทัพองค์กรสู้ ‘โควิด-19’ ชูเทคโนโลยีทำงานได้ ‘ทุกอุปกรณ์-ทุกแห่ง’
- ‘โควิด-19’ ดันยอดสั่งซื้อออนไลน์โต 80% แนะขนส่งติดอาวุธเทคโนโลยี
- อาลีบาบา ส่ง ‘คลาวด์’ ช่วยผู้ค้าตั้งค่าแพลตฟอร์มพร้อมขายใน 5 วัน