“สุวรรณภูมิ” ยันมีกล้องคัดกรองผู้โดยสารทุกจุดในสนามบิน วอนประชาชนอย่าโพสต์ข้อความสร้างความตื่นตระหนก ทำลายกำลังใจเจ้าหน้าที่ ด้าน “พนักงานทำความสะอาด” ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19
จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้เดินทางมาจากประเทศสเปน เมื่อลงจากเครื่องบินแล้วไม่ได้มีการผ่านจุดคัดกรองไวรัสโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น
นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนจำนวน 5 จุด ที่บริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D จำนวน 2 จุด และบริเวณทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 3 จุด ซึ่งผู้โดยสารทุกคนที่ผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทาง จะต้องผ่านจุดตรวจคัดกรองที่มีเครื่องตรวจเทอร์โมสแกน แต่ผู้โดยสารอาจจะมองไม่เห็น
หากเครื่องเทอร์โมสแกนวัดอุณหภูมิผู้โดยสารแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็สามารถเดินผ่านไปได้เลย แต่หากเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจพบว่า ผู้โดยสารรายใดมีอุณหูภมิสูงหรือมีไข้ เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคจะเข้าไปหาและนำตัวไปตรวจคัดกรองอย่างละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ อยากขอร้องประชาชนทุกคนว่า ประเทศอยู่ในภาวะที่ยากลำบากจากการระบาดของโควิด-19 จึงอย่าสร้างความตื่นตระหนกให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการออกมาโพสต์ข้อความที่คลุมเครืออาจจะทำให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลายและยังการบั่นทอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย
- ‘ตม.’ โร่แจง! หลังมีโพสต์แชร์ว่อนกลับจาก ‘สเปน’ ไม่ถูกคัดกรอง
- ตรวจ ‘ไวรัสโควิด-19’ พนักงานทำความสะอาดสุวรรณภูมิ หลังเป็นลมขณะทำงาน
รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเผยแพร่กรณีพนักงานทำความสะอาดเป็นลม ล้มลงที่บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) และได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดผลการตรวจสอบไวรัสโควิด-19 ของพนักงานคนดังกล่าวเป็นลบ แสดงว่าไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใด
สำหรับผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างเวลา 00.00 – 23.59 น. วันที่ 18 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา เป็นดังนี้
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีเที่ยวบินทั้งสิ้น 636 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบินระหว่างประเทศจำนวน 411 เที่ยวบิน แบ่งเป็นขาออกจำนวน 205 เที่ยวบินและขาเข้าจำนวน 206 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 225 เที่ยวบิน แบ่งเป็นขาออกจำนวน 113 เที่ยวบินและขาเข้าจำนวน 112 เที่ยวบิน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 18 มีนาคมปีที่แล้ว เที่ยวบินลดลง 40.3%
จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวนทั้งสิ้น 52,799 คน ได้แก่ ผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 33,390 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออกจำนวน 21,628 คนและผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 11,762 คน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 18 มีนาคมปีที่แล้ว จำนวนผู้โดยสารลดลง 76.11%
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 11,762 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI แต่พบผู้โดยสารมีไข้ 3 คน
สำหรับผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 195 ราย จำแนกเป็นผู้โดยสารที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 108 ราย ไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI เก็บตัวอย่างบุคลากรในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่งตรวจ จำนวน 10 คน อยู่ระหว่างรอผลจากห้องแล็ปและตรวจพบบุคลากรในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าเกณฑ์ PUI 1 คน ส่งต่อโรงพยาบาล แต่ไม่พบการติดเชื้อ
เก็บตัวอย่างผู้โดยสารคนไทย ที่ไม่มีเอกสารแสดงผลการตรวจโควิด-19 ในระยะเวลา 3 วัน จำนวน 6 คน (อยู่ระหว่างรอผล Lab 4 คน อีก 2 คน ผล Lab Negative) ซึ่งจะต้องมีผล Lab Negative ถึงจะเข้าเมืองได้ โดยที่ผู้โดยสารพักรออยู่ที่ห้องตรวจคัดกรองของด่านควบคุมโรคฯ สุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออก จำนวนทั้งสิ้น 29,277 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI
