พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 60 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสม 272 ราย กลุ่มสนามมวย-ผับ ยังติดกันพุ่ง 43 ราย เน้นๆผับติดทั้งร้าน ส่วนรายใหม่ 17 ราย มาจากประเทศเสี่ยง- ทำงานใกล้ชิดชาวต่างชาติ-เทรนเนอร์ สถานที่ออกกำลังกาย รอผลตรวจอีกยืนยัน 4 ราย เป็น “นักข่าว 1 ราย” แพทย์ท้อ พฤติกรรม “ไม่กักกันตัวเอง” ส่งผล การควบคุมป้องกันตอนนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก
วันนี้ (19 มีนาคม) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ไวรัส COVID-19 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า วันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ 60 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 272 ราย หายกลับบ้านแล้ว 42 ราย อยู่รพ. 229 ราย
สำหรับผู้ปวยรายใหม่ แบ่งเป็น กลุ่มที่สัมผัสผู้ปวย 43 รายจากสนามมวย และผับ แยกเป็นมาจากสนามมวย 12 ราย จำนวนนี้ เป็นผู้ชม ญาติ ดูแลค่ายมวย เจ้าหน้าที่ดูแล ทั้งสนามมวยลุมพินี จิตเมืองนนท์ และราชดำเนิน ส่วนหนึ่งเดินทางไปจังหวัดต่างๆ แยกกัก และดูแลรักษา เพราะเชื่อมโยงได้ว่าป่วยโดยไปสัมผัส จากการเข้ามาชม และมาทำกิจกรรมในสนามมวยอย่างชัดเจน
และสถานบันเทิง 14 ราย ติดที่ผับ เป็นทั้ง ดีเจ พนักงานทำความสะอาด ครอบครัว พนักงานเสิร์ฟ พิธีกร รองผู้จดการร้าน แคชเชียร์ คนไปเที่ยว ทั้งพื้นที่ทองหล่อ สวนหลวง รามคำแหง และสุขุมวิท
และผู้ป่วยที่เกิดจากการสัมผัส ผู้ป่วยที่มีการรายงานมาก่อนหน้านี้ 12 ราย เป็นผู้ร่วมงาน ภรรยา ผู้โดยสาร ลูกเรือสายการบิน แอร์โฮสเตส เจ้าหน้าที่คาร์โก ที่ไปนัดร่วมวง ทานข้าวร่วมกัน อีกส่วนเป็นผู้ปวยที่เข้าร่วมพิธีการทางศาสนา 5 ราย ที่ปัตตานี และ ยะลา
ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 17 ราย แยกเป็นเดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย ประวัติไปประเทศ ไต้หวัน ฝรั่งเศส อังกฤษ อินเดีย อิตาลี มาเลเซีย กัมพูา ญี่ปุ่น เยอรมัน และอิหร่าน บางรายเดินทางไปมากกว่า 1 ประเทศ และเกือบทั้งหมด จะพบว่ากลับมาจากประเทศ ที่มีการรายงานการระบาดต่อเนื่อง อีกส่วนเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ที่สัมผัสชาวต่างชาติ 3 ราย เป็น พี่เลี้ยง เป็นพนักงานเช็คอิน เป็นเพื่อนต่างชาติ ที่มาพักที่คอนโดมิเนียม และมี 1 ราย ทำงานในสถานที่แออัด และใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก คือเป็นเทรนเนอร์ในสถานที่ออกกำลังกาย และรอผลสอบสวนโรคอีก 4 ราย จำนวนนี้ มีผู้สื่อข่าว 1 ราย
สำหรับผู้ป่วยอาการหนักยังคงมี 3 ราย รายแรก เป็นชายไทยอายุ 49 ปี อยู่ในหอวิกฤติ ที่รพ.ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาการอยู่ในภาวะวิกฤติ ได้รับการล้างไตแล้ว ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว มีประวัติเป็นโรคหัวใจ กินยามาต่อเนื่อง
ส่วนรายที่ 2 เป็นชาวเบลเยี่ยม อายุ 67 ปี รักษาตัวที่รพ.เพชรบูรณ์ อยู่ในภาวะวิกฤติเช่นเดียวกัน ใส่ท่อช่วยหายใจ ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนักรายเดิม ที่เป็นวัณโรคร่วม ปัจจุบันไม่พบเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ยังต้องเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิดที่สถาบันบำราศนราดูร
ทางด้านกลุ่มที่เดินทางกลับจากประเทศอิตาลี ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี 83 คน ทั้งหมดไม่มีไข้ ยังต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการ จนครบ 14 วัน
“ผู้เสี่ยงสูงกลุ่มหลัง เราพบว่า ทำงานในสถานบันเทิง ครบทุกตำแหน่ง เรียกว่า ติดทั้งผับ ทั้งคนทำงานในผับ และ คนเที่ยว และคนในครอบครัว นับตั้งแต่เรารายงานผู้ป่วย 12 มีนาคม รวมแล้วจนถึงวันนี้ เราพบผู้ป่วยยืนยัน 57 ราย ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ส่วนกลุ่มสนามมวย พบการติดเชื้อ เป็นทั้งผู้จัด เจ้าของค่าย เซียนมวย พิธีกร ผู้ชม ครอบครัว และคนใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ถึงปัจจุบนพบรวม 52 ราย เห็นได้ว่า 2 กลุ่มรวมกัน เป็นหลักร้อย เป็นผู้ป่วย ที่มีการายงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยสะสมในไทยมากกว่า 200 รายในตอนนี้ “
นอกจากนี้ในส่วนของสนามมวย ผู้ติดเชื้อ เป็นผู้ชมจากต่างจังหวัด ผู้ป่วยมีโอกาสนำเชื้อไปติดคนใกล้ชิด ในภูมิลำเนาของตัวเอง และที่สำคัญไปกว่านั้น คือ พบว่ามีบางคน ที่ไปสัมผัสพื้นที่เสี่ยงสูง แต่ยังคงออกไปสถานที่ที่มีคนแออัด เช่น สถานบันเทิง ร้านอาหาร โดยไม่มีการกักกันตัวเอง ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็นอันตรายมาก ในการแพร่โรคไปสู่ผู้อื่น
และส่งผลให้การควบคุม และป้องกันเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาล จึงต้องแนะนำให้หลีกเลี่ยง ไปในสถานที่แออัด เพราะเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้มีมติจากการประชุมครม.ที่มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบ ปิดสถานที่แพร่ระบาดโรค เช่น สถานบันเทิง ร้านอาหาร เวทีมวย เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ทั้งนี้ขอแนะนำประชาชนให้ งดและลด การเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยงของการระบาดของโรค ไม่ออกนอกพื้นที่โดยไม่จำเป็น หากรู้ว่าตนเองเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง (ครอบครัวผู้ป่วย เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน ร่วมวงสังสรรค์ ร่วมเชียร์มวย เชียร์บอล ผู้นั่งติดกัน ใช้พาหนะร่วมกัน) ขอให้ร่วมรับผิดชอบสังคม ด้วยการกักกันตนเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด (Self-Quarantine at Home) รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัย รีบไปพบแพทย์ทันทีพร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง ขอให้แยกของใช้ส่วนตัว รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ แยกสำรับอาหาร ถ้าไม่แยกสำรับ ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว
สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 18 มีนาคม 2563 สะสมทั้งหมด 8,157 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 305 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 7,852 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 5,106 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 3,051 ราย
ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกใน 168 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 19มีนาคม 2563 ณ เวลา 7.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 212,799 ราย เสียชีวิต 8,787 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,894 ราย เสียชีวิต 3,237 ราย
กรณีที่มีผู้โดยสารโพสต์ในเฟซบุ๊ก ว่ากลับจากสเปนไม่มีการตรวจคัดกรองนั้น ยืนยันว่ามีเครื่องเทอร์โมสแกนตามจุดต่างๆ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูอยู่ อย่างไรก็ตามสเปนไม่ได้เป็น 1 ในพื้นที่ที่มีการประกาศเขตติดโรคอันตรายเหมือนอย่างจีน รวมฮ่องกง และมาเก๊า เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน แต่เป็นประเทศที่เราประกาศว่าเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง 1 ใน 6 ประเทศ รวมกับ ไต้หวัน เยอรมนี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฝรั่งเศส ดังนั้นมาตรการการเข้าประเทศของทั้งสองกลุ่มจะเข้มงวดแตกต่างกันไป
- WHO ชี้ โควิด-19 ‘ศัตรูต่อมนุษยชาติ’ จัด ‘ไทย’ อยู่ระดับ 4 ‘เตรียมความพร้อม-ตอบสนอง’ ต่อการระบาด
- ‘สุวรรณภูมิ’ เข้มมาตรการคัดกรองใน ‘เขตปลอดอากร’ หลังเจ้าหน้าที่คาร์โก้ติดไวรัส
- ‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ ยันมีเทอร์โมสแกนทุกจุด วอนอย่าโพสต์ให้สังคมตระหนก
