ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (18 มี.ค.) ดิ่งลงอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางสัญญาณที่เพิ่มขึ้นว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจอเมริกัน ทำให้นักลงทุนมองข้ามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของรัฐบาล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 19,964.89 จุด ร่วงลง 1,272.49 จุด หรือ 5.99% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,385.40 จุด ลดลง 143.79 จุด หรือ 5.69% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 6,969.25 จุด ร่วงลง 365.54 จุด หรือ 4.98%
รัฐบาลสหรัฐเล็งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยจะจ่ายเช็คให้แก่ชาวอเมริกันครัวเรือนละ 1,000 ดอลลาร์ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ยังอนุมัติให้ชาวอเมริกัน และภาคธุรกิจสามารถเลื่อนการชำระภาษีออกไปเป็นเวลา 90 วัน โดยภาคธุรกิจสามารถเลื่อนการชำระภาษีเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนบุคคลธรรมดาสามารถเลื่อนการชำระภาษี 1 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นวงเงินรวม 300,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 850,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง การให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินจำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์
ดัชนีย่อยกลุ่มสายการบิน ในเอสแอนด์พี 500 ดิ่งลงมาถึง 13% ขณะที่เชนโรงแรมชั้นนำ ฮิลตัน เวิลด์วายด์ โฮลดิ้งส์ และแมริออต อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ รวมถึง เอ็กซ์พีเดีย เอเยนซีออนไลน์ ล้วนแต่ติดกลุ่มหุ้นที่ราคาร่วงหนักสุด
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดกำลังอยู่ในภาวะตื่นตระหนก ทั้งกำลังเริ่มเกิดความกังวลว่าจะเกิดภาวะเงินฝืดตามมาก ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สร้างความผันผวนอย่างหนักให้กับตลาดในขณะนี้
เหล่านักลงทุนยังกังวลด้วยว่า เงินอัดฉีดจำนวนมหาศาล ที่รัฐบาลทุ่มออกมานั้น อาจจะช่วยให้เศรษฐกิจรอดพ้นจากการตกสู่ภาวะถดถอยไม่ได้ เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ยังระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ทั้งช่วงเวลาความเสียหาย ยังอาจยืดเยื้อไปจนถึงช่วงกลางปี
