7 ข้อเท็จจริง ไวรัส COVID-19 สร้างการเรียนรู้ประชาชน หลีกเลี่ยงรับเชื้อทุกปัจจัย เน้นไม่เข้าพื้นที่ชุมชน ย้ำผู้ป่วยไม่แสดงอาการ ก็แพร่เชื้อได้ แต่รุนแรงมากน้อย ขึ้นกับภูมิต้านทานผู้รับเชื้อ
จากการเปิดโครงการ “ร่วมวิจัย และพัฒนานวัตกรรมหน้ากากผ้านาโนกันไรฝุ่น (WIN-Masks: Washable Innovative Nano-Masks) เพื่อป้องกัน COVID-19” เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ระหว่างรพ.ศิริราช และอีกหลายสถาบันการศึกษา ทางรพ.ได้ใช้โอกาสนี้ ย้ำเตือนกับประชาชน ถึง 7 ข้อเท็จจริง ของไวรัส COVID-19 เพื่อให้ประชาชนป้องกันดูแลตัวเอง และคนรอบข้างอย่างถูกต้อง ดังนี้
1. ไวรัส COVID-19 มีขนาด 0.05-0.2 ไมครอน ขนาดเฉลี่ย 0.1 ไมครอน
2. ติดต่อผ่านการสูดดมละอองฝอย จากเสมหะ (Droplet) ที่มีเชื้อไวรัสปะปนอยู่ หรือสัมผัสเสมหะ หรือสารคัดหลั่ง ที่มีเชื้อไวรัส แล้วมาสัมผัสจมูกปาก หรือขยี้ตา ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อไวรัส นอกจากการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ต้องร่วมกับการล้างมือ ทุกครั้งอย่างน้อย 20 วินาที ก่อนสัมผัสจมูกปาก หรือขยี้ตา
3. ละอองฝอย(Droplet) จากเสมหะที่ไอ (coughs) จาม (sneezes) มีขนาด > 5-10 ไมครอน แต่ส่วนใหญ่มีขนาด 50 ถึง 100 ไมครอน
- ละอองฝอยขนาด 100 ไมครอน มีระยะรัศมี เคลื่อนที่ได้ไกล 1-2 เมตร
- ละอองฝอยขนาด 50 ไมครอน มีระยะรัศมีเคลื่อนที่ได้ไกลถึง 4 เมตร
- ละอองฝอยขนาด 5 ไมครอน อาจมีระยะรัศมี ได้ไกล > 8 เมตร
4. ผู้ที่ได้รับเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ สามารถแพร่เชื้อได้ แต่มีปริมาณเชื้อ และโอกาสแพร่เชื้อได้ต่ำกว่าผู้ที่แสดงอาการ
5. การพูดคุย 5 นาที สามารถพ่น ละอองฝอยได้ถึง 3,000 หยด (Droplets) กระจายในระยะรัศมี ไม่เกิน 1 เมตร ดังนั้นการหลีกเลี่ยงไปในที่ชุมชน จึงเป็นวิธีที่สำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ
6. ความรุนแรงของโรค ขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อไวรัส ที่เข้าไปสู่เนื้อปอด และภูมิต้านทานของผู้รับเชื้อ
7. จากการศึกษาเทียบเคียงด้วยโคโรนาไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ พบว่า เชื้อมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อม บนพื้นผิวทั่วไป เช่น เหล็ก แก้ว พลาสติก ที่อุณหภูมิปกติได้นานสูงสุดถึง 9 วัน และที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสได้ 4-96 ชั่วโมง
หากเชื้ออยู่ในตู้เย็น หรือสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส อยู่ได้นานกว่า 1 เดือน อย่างไรก็ตามสามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อได้ด้วย แอลกอฮอล์ 70% และ 0.1% sodium hypochlorite
สำหรับการเลือกใช้หน้ากากผ้า ในการป้องกันไวรัส COVID-19 จึงต้องพิจารณาคุณสมบัติให้ครบ 5 ข้อ ที่สำคัญ ดังนี้
1. ประสิทธิภาพการกรองอนุภาคของหน้ากาก (Particle filtration efficiency: PFE) ที่สามารถป้องกันหรือกรองฝุ่นละอองฝอยขนาด 5 ไมครอนได้
2. สามารถป้องกัน การซึมผ่านของละอองฝอยเสมหะ หรือสารคัดหลั่งที่เป็นของเหลว (Fluid resistance) จากภายนอกสู่ผู้สวมใส่ และจากเสมหะผู้สวมใส่สู่ภายนอกได้
3. ความกระชับของหน้ากาก (Fit test) สามารถสวมใส่ได้แนบกับใบหน้า ป้องกันอากาศจากภายนอกเข้าได้
4. มีการซึมผ่านของอากาศได้ดี (Permeability Test) ไม่ทำให้การหายใจลำบาก
5. สามารถซักซ้ำได้โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติทั้ง 4 ด้าน
- Social Distancing แค่ไหน ถึงเรียกว่า ‘ห่าง’ ไกลไวรัส COVID-19
- เจ๋ง!! ‘ศิริราช’ จับมือสถาบันวิจัย ผลิต ‘หน้ากากนาโน’ ประสิทธิภาพสูง ซักน้ำได้ 30 ครั้ง
- พบผู้ติดเชื้อใหม่ 35 ราย ยอดสะสม 212 ราย สนามมวย-ผับ ป่วยอีก 29 คน เจอรายใหม่ 6