พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 212 ราย สนามมวย-ผับทองหล่อ ป่วยอีก 29 ราย เจอรายใหม่ 6 คน กลับจากกัมพูชา ทำงานใกล้ชิดชาวต่างชาติ เป็นบริกร นิติบุคคลคอนโด ยังประกาศ! ตามหาผู้ไปสนามมวยลุมพินี-ราชดำเนิน ระหว่าง 6-8 มี.ค. และผับย่านทองหล่อ 9-10 มี.ค.
วันนี้ ( 18 มี.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ประกาศสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ประวันที่ 18 มีนาคม
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ณ วันนี้ ( 18 มี.ค.) พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 ราย กลับบ้านเพิ่มอีก 1 ราย รวมกลับบ้านแล้ว 42 ราย มีผู้ป่วยอยู๋ในรพ.169 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 212 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 17 มีนาคม 2563 รวม 7546 ราย วานนี้เพิ่ม 501 ราย
สำหรับผู้ป่วยใหม่ยืนยัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม จากการสืบค้นหาประวัติ เป็นผู้ที่ไปในสถานที่ ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 19 ราย มาจากสนามมวย 13 ราย เป็นผู้ชมมวยในกทม.และกลับบ้าน ไปที่ ขอนแก่น สมุทรปราการ สุโขทัย นครราชสีมา เชียงใหม่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ส่วนกลุ่มสถานบันเทิง ย่านทองหล่อติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย และเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยที่มีการรายงานแล้ว 12 ราย มาจากกลุ่มสังสรรค์ สนามมวย และเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งหมด กลุ่มนี้ 29 ราย
กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย มาจากกัมพูชา และทำงานใกล้ชิดชาวต่างชาติ 4 ราย เป็นบริกร นิติบุคคลคอนโดมิเนียม รอผลสอบสวนโรคเพิ่มเติม 1 ราย
กลุ่มผู้ป่วยใหม่ เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 2 ราย เป็น ชายไทยอายุ 49 ปี เข้ารับการรักษาเมื่อ 8 มีนาคม ด้วยอาการ ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั้น พบปอดอักเสบ และไตทำงานผิดปกติ ปัจจุบันอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤติ ที่รพ.ในจังหวัดสราษฎร์ธานี โดยใช้ท่อช่วยหายใจ วันนี้ล้างไตแล้ว และได้รับยาต้านไวรัสแล้ว
ผู้ป่วยหนักอีกคน เป็นชาวเบลเยี่ยมอายุ 67 ปี มากจากประเทศเบลเยี่ยม พบปอดอักเสบ มีวิกฤติทางเดินหายใจเฉียบพลัน ที่เรียกว่า ARDS ใช้ท่อช่วยหายใจ และยาต้านไว้รัสแล้ว ปัจจุบันรักษาการอยู่ที่รพ.ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนผู้ป่วยหนักอีก 1 ราย เป็นรายเดิม ยังรักษาอาการอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ดังนั้นรวมแล้ว ล่าสุดมีผู้ป่วยอาการหนักรวม 3 ราย
สำหรับผู้เดินทางกลับจากอิตาลี 83 คน มี 6 คน รับตัวไว้ในรพ. ไม่มีไข้ ตรวจแล้ว ผลออกมาแล้วไม่พบเชื้อ แต่กลุ่มนี้ต้องเฝ้าระวัง และสัเกตอาการจนครบ 14 วัน
“ผู้ป่วยรายใหม่ ล้วนเป็นหนุ่มสาว มีประวัติไปยังพื้นที่เสี่ยงไปที่คนแออัด ยังคงมีกิจกรรมสังสรรค์ หลายคนไม่ลดกิจกรรมทางสังคม และไม่เว้นระยะห่าง ไม่กักกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ทำให้นำโรคไปติดคนใกล้ชิด และเพื่อนๆ ยืนยันว่าโรคนี้รุนแรงในกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และมีโรคประจำตัว หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป การระบาดของโรคจะขยายวง จนนำไปสู่ภาวะ ที่เราอาจควบคุมได้ยากลำบาก”
นพ.สุวรรณชัย ย้ำว่า ผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสียง ทุกคนต้องร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำ ของกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่าต้องทำอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างส่วนบุคคล 1 เมตร งดเดินทาง สวมหน้ากาก พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก สวมหน้ากากอนามัย ไปพบแพทย์ และแจ้งประวัติความเสี่ยง แยกของใช้ แยกสำรับ
ขอประกาศ ให้ผู้ที่ไปสนามมวย ลุมพินี และ ราชดำเนิน ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม และเข้าไปสถานบันเทิง ร้านอาหารกลางคืน ในพื้นที่ระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กระทรวงพบผู้ป่วยในพื้นที่ดังกล่าว กลุ่มคนเหล่านี้ ขอให้สัเกตอาการตนเอง เ็นเวลา 14 วัน หากมีไข้ ร่วมกับไอ เจ็บคอ ให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้ฟรี ทั้งนี้หากสงสัยติดต่อสอบถาม มายังสายด่วน 1422
สำหรับรายละเอียดของ ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 17 มีนาคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 7,546 ราย วานนี้เพิ่ม 501 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 295 ราย รับการรักษาที่รพ.เอง 7,251 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 4,789 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 2,757 ราย
ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกใน 161 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 18 มีนาคม 2563 ณ เวลา 7.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 194,584 ราย เสียชีวิต 7,894 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,881 ราย เสียชีวิต 3,226 ราย
- โควิด-19! ‘เวียดนาม’พบผู้ติดเชื้อเอี่ยวงานมาเลย์ ‘สหรัฐ’ เจอครบทุกรัฐ ยอดดับทั่วโลก 7,987 ราย
- ‘มาเลเซีย’ เริ่มปิดประเทศนาน 2 สัปดาห์ คนแห่กักตุนสินค้า – หนีไปอยู่สิงคโปร์
- ‘ดร.สุภางค์’ เทียบการรับมือโควิดไทยกับเยอรมัน ชี้ ‘ลุงตู่’ ทำดีที่สุดแล้ว
