เดอะ เทเลกราฟ สื่อชื่อดังของอังกฤษรายงานว่าฝ่ายจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษเริ่มวางแนวทางหาทางออกกรณีที่ไม่สามารถแข่งต่อได้ โดยที่ ลิเวอร์พูล จะยังได้แชมป์ลีกไปครอง และจะยกเลิกการตกชั้น ขณะที่สิทธิ์ลุยถ้วยยุโรปยึดจากทีมจากซีซั่นที่แล้ว
ลีกอาชีพทุกระดับของอังกฤษโดนสั่งพักการแข่งขันไปจนถึงวันที่ 3 เมษายนนี้เป็นอย่างน้อย หลังจากที่เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงก่อนกลับมาประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
ด้วยสถานการณ์ไว้รัสร้ายที่ยังแพ่ระบาดมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน โดยในสหราชอาณาจักรมีผู้ที่ติดเชื้อราว 1,543 คน และเสียชีวิตแล้ว 55 ราย จึงมีกระแสออกมาว่าลีกอังกฤษอาจจะตัดจบซีซั่นนี้ไปเลยไม่กลับมาแข่งต่อแล้วซึ่งหากเป็นเช่นนั้นโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะชวดแชมป์ก็มีสูงแม้ว่าจะทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 มากถึง 25 คะแนน
เดอะ เทเลกราฟ รายงานว่าพรีเมียร์ลีกเริ่มวางแนวทางเรื่องนี้ไว้แล้วโดยหากกลับมาเตะต่อไม่ได้จะตัดสินให้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ไปครองซึ่งสโมสรลีกสูงสุดส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
ส่วนประเด็นทีมตกชั้นที่แต้มยังสูสีกันมีช่องว่างเพียง 8 แต้มกับ 9 เกมที่เหลือทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะเสนอให้ซีซั่นนี้ยกเลิกการตกชั้น ส่วนทีมที่เลื่อนชั้นจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นมาจะมีเพียง 2 ทีมคือแชมป์กับรองแชมป์ ต่างจากปกติจะมีโควตาให้ทีมที่ชนะรอบเพลย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้นด้วยอีกหนึ่งทีม
หากทักฝ่ายเห็นด้วยกับแนวคิดนี้จะทำให้ซีซั่น 2020-21 มีทีมลงเล่นพรีเมียร์ลีก 22 ทีมซึ่งจะต้องมีทีมตกชั้น 5 ทีมเพื่อที่จะกลับมาเหลือ 20 ทีมในซีซั่นถัดไป รวมทั้งจะมีการยกเลิกถ้วยลีก คัพ (คาราบาว คัพ) ในฤดูกาลหน้าเพื่อที่จะได้จัดโปรแกรมพรีเมียร์ลีกได้ลงตัวไม่เตะถี่จนเกินไป
ขณะที่โควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นทางฝ่ายจัดการแข่งขันมีแนวคิดให้ 4 ทีมที่ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้คือ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้สิทธิ์เล่นในซีซั่นหน้าต่อไปแม้ว่าปัจจุบัน สเปอร์ส จะอยู่อันดับ 8 ก็ตาม ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 3 และหากกลับมาเตะต่อก็ไม่น่าหลุดจาก 4 อันดับแรกจะได้สิทธิ์เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการเพิ่มทีมที่ได้เล่นรอบคัดเลือกในซีซั่นหน้า
อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้เกิดจากทางฝ่ายจัดการแข่งขันเพียงฝั่งเดียวหากจำนำมาใช้ต้องได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกในลีกและสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ก่อน
