Business

‘การท่าเรือฯ’ ลุยเจรจาสัญญาแหลมฉบัง ‘ปตท.-กัลฟ์’ คาดเซ็นสัญญาเดือนหน้า

“การท่าเรือฯ” ลุยเจรจาร่างสัญญาแหลมฉบังเฟส 3 กับ “กลุ่ม GPC” วันที่ 18 มี.ค. คาดลงนามสัญญาได้ เม.ย. นี้ หวังงัดค่าตอบแทนเพิ่มอีก 2 หมื่นล้าน

กมลศักดิ์182621

เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F เปิดเผยว่า หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ให้การตัดสิทธิ์กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ซึ่งประกอบด้วย บริษัท นทลิน จำกัด, บริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด, บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM, บริษัท พีเอชเอส ออแกนิค จำกัด และ China Railway Construction Corporation Limited ออกจากการประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คณะกรรมการคัดเลือกฯ จึงจะนัดเจรจาผลตอบแทนและร่างสัญญากับผู้ยื่นข้อเสนออีกรายที่เหลืออยู่ คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ซึ่งประกอบด้วยบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในเครือ ปตท., บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท China Harbour Engineering Commpany Limited (CHEC) จากประเทศจีน

ท่าเรือ แหลมฉบัง 33

โดยการเจรจาครั้งแรกจะเริ่มต้นในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ซึ่งอาจต้องเจรจามากกว่า 1 ครั้ง เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) การท่าเรือฯ ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กทพ.) และคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในเดือนเมษายนนี้

เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินที่เอกชนจะต้องจ่ายผลตอบแทนโครงการดังกล่าวให้รัฐประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากเปิดซองราคาของกิจการร่วมค้า GPC แล้ว พบว่าเสนอราคาแค่ 1.2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ ต้องเจรจาให้ได้ตัวเลขให้เคียงกับที่ ครม. อนุมัติมากที่สุด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวล่าช้ากว่าแผนประมาณ 1 ปี จากเดิมกำหนดเปิดให้บริการต้นปี 2566 ต้องเลื่อนออกไปเป็นปลายปี 2566 แทน

Avatar photo