Sport

ปรับแผนสู้โควิด-19! ส.จักรยานส่ง ‘จุฑาธิป’ ซ้อมเข้มเชียงใหม่เตรียมลุย ‘โอลิมปิก’

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ “บีช” ร้อยโทหญิงจุฑาธิป มณีพันธุ์ ได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปแข่งขันจักรยานประเภทถนนหญิง ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ถึงวันที่ 9 สิงหาคม 63 เดิมที่ตามแผนที่วางไว้คือหลังจากจบการแข่งขันจักรยานทางไกล ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020 แล้วจะกลับไปแข่งให้กับทีมอาชีพที่อิตาลี

87602821
ภาพจาก : facebook @taca1959

ด้วยสถานการณ์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มขยายวงกว้างขึ้น อิตาลีประกาศปิดประเทศและไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า คณะกรรมการโอลิปิกสากล หรือ “ไอโอซี” จะสั่งให้เลื่อนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ออกไปหรือไม่ แต่ระหว่างที่รอผลการพิจารณาสมาคมฯ ต้องเก็บตัวนักกีฬาแต่เปลี่ยนแผนจากไปอิตาลีเป็นส่ง จุฑาธิป ไปเก็บตัวที่จังหวัดเชียงใหม่แทน

“ส่วนการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผมได้สั่งการให้สตาฟฟ์โค้ชและนักกีฬาทุกคนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่สุ่มเสี่ยง สถานที่มีผู้คนชุมนุมจำนวนมาก ให้นักกีฬาสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตลอดเวลา”

โดยแผนเบื้องต้นให้ จุฑาธิป และนักกีฬาคนอื่น ๆ จะยกทีมขึ้นไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ จ.เชียงใหม่ อาจจะให้เก็บตัวร่วมกันทั้งทีมชายและทีมหญิง เพื่อเตรียมทีมต่อเนื่องสำหรับการแข่งขันรายการอื่นๆ ต่อไป เหตุผลที่ให้ จุฑาธิป และเพื่อนร่วมทีมไปเก็บตัวที่ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางการปั่นทั้งทางเรียบและทางขึ้นภูเขาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเส้นทางแข่งขันจักรยานในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางขึ้นภูเขา จุฑาธิป ก็จะได้ฝึกซ้อมในสภาพจำลองที่คล้ายสนามแข่งขันจริงมากที่สุด สำหรับการเตรียมทีม “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ในส่วนของทีมหญิง วางแผนไว้ว่า วันที่ 14 มีนาคม จะยกทีมไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อฝึกซ้อมเส้นทางแข่งขันจริง โดยจะปักหลักยาวจนกระทั่งถึงวันแข่งขัน

พลเอกเดชา ได้กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีของ “ทีเจ” จาย อังค์สุทธาสาวิทย์ นักกีฬาจักรยานประเภทลู่ คีริน ที่เกิดอุบัติเหตุล้มระหว่างแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ทำให้พลาดโอกาสได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 นับว่าน่าเสียดายอย่างมาก แต่ต้องยอมรับว่าการที่ จาย จะได้ไป “โตเกียวเกมส์” นั้น ค่อนข้างลำบาก เพราะ จาย ไม่ได้ลงแข่งขันเก็บคะแนนตั้งแต่เนิ่นๆ แถมยังมีช่วงที่มีอาการบาดเจ็บ ต้องพักรักษาตัวหลายเดือน ทำให้พลาดการเก็บคะแนนในการแข่งขันสำคัญ ๆ หลายรายการ อย่างไรก็ตาม จาย ยังมีโอกาสในอีก 4 ปีข้างหน้า คือโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ล่าสุด มร.เกร็ก แม็คคลีน ผู้ฝึกสอนประจำศูนย์ฝึกจักรยานโลก (ดับเบิลยูซีซี) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งดูแลการฝึกซ้อมของ จาย ได้ส่งข้อเสนอแนะมาว่า ถึงแม้ จาย จะไม่ได้ไปโอลิมปิกเกมส์ แต่ผลงานในปีที่ผ่านมา จาย ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะการแข่งขัน “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ” ทั้ง 6 สนาม จาย สามารถครองตำแหน่งผู้ชนะเลิศคะแนนรวมได้ มันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการฝึกฝนและความก้าวหน้าที่เขาทำได้ในช่วงที่อยู่กับศูนย์ฝึกจักรยานโลก ดังนั้น จาย จึงมีเส้นทางและโอกาสสูงที่จะได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส หากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ

พลเอกเดชา เปิดเผยอีกว่า ในส่วนของนักกีฬาไทยอีก 2 คน คือ วรยุทธ คะปัญญา และ จตุรงค์ นิวันติ ซึ่งไปฝึกซ้อมอยู่ในศูนย์ฝึกจักรยานโลก ร่วมกับ จาย นั้น มร.เกร็ก แม็คคลีน มีความเห็นว่า ควรจะให้ วรยุทธ ฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกฯ และตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนร่วมกับ จาย ต่อไป หากระบบคิดคะแนนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ยังใช้รูปแบบเดิมอยู่ เพราะจะได้ช่วย จาย เก็บคะแนนในการแข่งขันระดับ C1 และ C2 ในช่วงฤดูร้อนนี้ เพื่อสะสมคะแนนสำหรับการเข้าไปแข่งขันจักรยานลู่ “เนชั่นส์ คัพ” หรือของเดิมคือ “เวิลด์ คัพ” ส่วน จตุรงค์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ควรรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน แล้วค่อยให้มาร่วมทีมช่วย “จาย” เก็บคะแนนอีกคน นอกจากนี้ มร.เกร็ก แม็คคลีน ยังเสนอว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ควรมุ่งสร้างทีมสปรินท์ขึ้นมาด้วย โดยคัดเลือกนักกีฬาดาวรุ่งฝีมือดีจำนวน 3 คนมาร่วมทีม

“ส่วน จาย รวมทั้ง วรยุทธ และ จตุรงค์ เบื้องต้นจะต้องหารือกับฝ่ายเทคนิคสมาคม ในการวางแผนให้ จาย กับ วรยุทธ ฝึกซ้อมกับศูนย์ฝึกจักรยานโลกต่อ โดยสมาคมฯ จะนำเสนอเข้าสู่โครงการ “โรด ทู ปารีส” ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หากเราหวังจะผลักดันให้นักกีฬาได้สิทธิ์ไปโอลิปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ก็ต้องวางแผนการเตรียมเก็บคะแนนสะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยสมาคมฯ ได้วางยุทธศาสตร์ไว้ 2 ประการ ยุทธศาสตร์แรก ต้องทำให้นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 และยุทธศาสตร์ที่สอง นักกีฬาที่ได้สิทธิ์แล้วจะต้องผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้” พล.อ.เดชา กล่าว

Avatar photo