หลังจาก ลา ลีกา สเปน ตัดสินใจเลื่อนการแข่งขัน 2 นัดต่อไปในสัปดาห์ที่ 28 และ 29 ของฤดูกาลออกไปก่อนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ เนื่องจาก เรอัล มาดริด เป็นทีมล่าสุดที่โดนผลกระทบ
“ราชันชุดขาว” ต้องปิดศูนย์ฝึกซ้อม หลังมีนักบาสเกตบอลรายหนึ่งซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อของสโมสรผลตรวจออกมาเป็นบวก ส่งผลให้นักฟุตบอลต้องถูกกักตัวไปด้วย เพราะนักบาสและนักฟุตบอลฝึกซ้อมอยู่ในสถานที่เดียวกัน
ล่าสุดนายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ ประกาศภาวะฉุกเฉินในสเปนเมื่อวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม และเตรียมเริ่มมาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดทั่วประเทศเป็นเวลา 15 วันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อในประเทศแล้ว 6,313 ราย เสียชีวิตอีก 193 คน
จากสถานการณ์ล่าสุดของสเปนที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสร้ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวันทำให้มีการคาดการณ์ว่าลีกสเปนอาจกลับมาเตะต่อไม่ได้ต้องตัดจบฤดูกาลไปโดยปริยาย
หากตัดจบฤดูกาลนอกจากจะปวดหัวกับเรื่องการจัดสรรอันดับในลีกว่าจะตัดสินอย่างไรแล้วลาลีกายังต้องเจอผลกระทบสูญเสียรายได้มหาศาล
โดยปัจจุบันลาลีกาสเปนเตะไปแล้ว 27 นัด ส่วนในลีกรองเตะไปแล้ว 31 เกม โดยทั้งสองลีกเหลือโปรแกรมให้เล่นอีกทีมละ 11 นัด
หากการระงับยืดเยื้อออกไป หรือแย่ถึงขั้นจบฤดูกาลไม่ได้ จะเกิดการสูญรายได้มหาศาล โดยมีการคำนวนว่า ลา ลีกา จะสูญเสียรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ทีวีราว 494 ล้านยูโร บวกกับ 78.1 ล้านยูโรจากตั๋วปี และ 38.8 ล้านยูโรจากการขายตั๋วในวันแข่งขัน ซึ่งคิดรวมแล้วเป็นเงิน 610.9 ล้านยูโร
สำหรับเซกุนด้า ดิบิซิโอน ตัวเลขจะอยู่ที่ 55 ล้านยูโร, 9.9 ล้านยูโร และ 2.6 ล้านยูโร ตามลำดับเทียบจากลา ลีกา รวมเป็น 67.5 ล้ายูโร
ดังนั้นหากทั้ง 2 ลีกท็อปของสเปน ไม่อาจจบฤดูกาลได้ ลา ลีกา จะสูญรายได้ 678.4 ล้านยูโรเลยทีเดียว หรือประมาณ 23,744 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ลาลีกายืนยันว่าแม้เรื่องเงินไปเรื่องใหญ่ แต่สุขภาพและชีวติของผู้คนสำคัญกว่าหากต้องตัดจบก็จำเป็นต้องทำ
