Politics

‘บิ๊กตู่’ จ่อเปิดรพ.เฉพาะกิจรักษา ‘โควิด’ ชี้หากจำเป็นก็ต้องปิดผับทั้งหมด!!

“บิ๊กตู่” จ่อเปิดโรงพยาบาลเฉพาะกิจรักษา “โควิด-19” หากสถานการณ์เข้าสู่ระดับ 3 ชี้ข้อเสนอปิดผับเบื้องต้นจะขอความร่วมมือ แต่หากจำเป็นก็ต้องปิดทั้งหมด พร้อมลั่นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่หมอ!!

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การมาประชุมในวันนี้เพราะมีความกังวลว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไร จึงมานั่งไล่ตรวจสอบกันในทุกหน่วยงานตามมาตรการที่ได้ประกาศออกไปแล้วว่าทำไปได้แค่ไหน อย่างไร และปัญหาอยู่ตรงไหน รวมทั้งได้ทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่ทำลงไป รวมถึงหน้ากากอนามัย ซึ่งวันนี้ผมสั่งให้ไปรวบรวมเกี่ยวกับเรื่องของหน้ากากอนามัยว่าในส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้น มีประเทศใดบ้าง กำลังตรวจสอบยอดที่เข้ามาว่ามีจำนวนเท่าไร เพื่อดูว่ายอดที่นำเข้ามากับยอดที่ผลิตในประเทศรวมแล้วมีจำนวนเท่าไร มีพอเพียงหรือไม่

ประยุทธ์1533

ขณะเดียวกัน ได้สั่งให้มีการไปเพิ่มมาตรการเกี่ยวกับการผลิตตามสายผลิตของโรงงานต่างๆให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีมาตรการที่รัฐสนับสนุนและส่งเสริมซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง อีกทั้งได้มีการหารือกับประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบโดยเฉพาะการประสานกับทางจีน เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีน นอกจากนี้ เรากำลังเร่งพัฒนาหน้ากากอนามัยทางเลือก ซึ่งสามารถใช้กับบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้ไปใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยง เรื่องเหล่านี้ประชาชนจะต้องเกิดความเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงการเตรียมมาตรการรองรับหากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ว่ากระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำอะไร เตรียมการในส่วนใดบ้าง ฝ่ายความมั่นคงต้องไปพิจารณาว่าจะต้องใช้กฎหมายใดเพื่อเพิ่มเติมเป็นพิเศษ การประกาศนั้นง่ายอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญเราต้องมาดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจะต้องทำอย่างไร ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ และเรื่องสุขภาพล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญทั้งสิ้น

“ยอมรับว่าวันนี้ประชาชนเดือดร้อนเยอะ จึงอยากขอร้องว่าวันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะต้องไปกักตุนอะไรนักหนา ผมคิดว่าอย่าไปกลัวถึงขนาดนั้นเลย วันนี้เรามีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมา ทั้งในเรื่องการติดตามตัว การใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆกำลังพิจารณาดูว่าจะบังคับใช้กับทุกคนได้หรือไม่ เพราะบางครั้งก็ติดในเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล จะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าตัว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ประยุทธ์1532

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องแยกการปฏิบัติในส่วนของคนไทย และในส่วนของชาวต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นมาตรการที่เสนอมาโดยคณะแพทย์ อย่าลืมว่านายกรัฐมนตรีไม่ใช่หมอ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหาร เราก็ต้องฟังหมอเป็นหลัก ซึ่งวันนี้หมอที่มาร่วมประชุมไม่ใช่หมอเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข แต่มีหมอจากภายนอกเข้ามาซึ่งมีหมออาวุโส ผู้เชี่ยวชาญ เพราะประเทศไทยมีโรคระบาดเกิดขึ้นหลายโรคแล้ว วันนี้ทุกฝ่ายได้เข้ามาช่วยกันทั้งหมด เว้นแต่บางคนที่ยังเข้ามาไม่ได้เพราะบางครั้งยังพูดไม่ตรงกัน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะต้องพูดตรงกับรัฐบาลแล้วถึงจะให้เข้ามาร่วมทำงาน เพียงแต่เราต้องฟังเหตุและผลด้วยกัน ในช่วงนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกคน

ทั้งนี้ นายกฯให้ความสำคัญกับทุกคน วันนี้คนไทยที่กลับจากต่างประเทศเราก็มีมาตรการดูแลทั้งนักศึกษาทุนเอเอฟเอส และแรงงาน เพราะทุกคนก็ต้องการกลับบ้าน เราต้องมาดูถึงมาตรการการคัดกรอง ทั้งเรื่องของสถานที่ อย่างที่ศูนย์สัตหีบเราก็ยังมีการใช้อยู่ ไม่ได้สั่งปิดหรือเปิด เมื่อมีคนเข้ามาและจำเป็นต้องเข้าไปใช้ก็ต้องใช้

สำหรับเรื่องโรงพยาบาลในอนาคตตนได้ให้แนวทางไปว่าควรจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลที่เปิดเป็นศูนย์เฉพาะกิจในการรักษาพยาบาลโรคไวรัสโคโรนา ถ้าสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งขณะนี้มีสถานที่แล้วเป็นโรงพยาบาลที่สร้างใหม่ แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน มีจำนวนเตียงประมาณ 100 เตียง จะใช้เป็นโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะกิจสำหรับโรคโควิดโดยเฉพาะ ถือเป็นมาตรการรองรับในอนาคตในส่วนของอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆก็ให้มีการเสนอขึ้นมาซึ่งรัฐบาลพร้อมทุ่มศัพท์พระกำลังในตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลสนับสนุนทุกเรื่องที่เป็นความต้องการของหน่วยงานภาครัฐจากมติของคณะกรรมการโรคระบาดแห่งชาติ” นายกฯ กล่าว

IMG 20200315122912000000

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอให้มีการปิดผับและสถานบันเทิงในพื้นที่เสี่ยง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของสถานบันเทิงได้มีการหารือแล้ว ขณะนี้กำลังดูว่าถ้าขอความร่วมมือได้ก็จะขอความร่วมมือ ในส่วนที่มีปัญหาอยู่ก็ต้องดูว่าเขาพร้อมที่จะปิดตัวเองหรือยัง และเมื่อถึงเวลาจำเป็นก็อาจต้องปิดทั้งหมด แต่สิ่งนี้คืออีกขั้นตอนหนึ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเราทำช้าแต่ต้องคำนึงถึงหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา สนามมวย ผับต่างๆ ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังไปหารือกันว่าควรมีมาตรการอย่างไรเรื่องนี้เราต้องฟังจากหมอว่าจะควบคุมอย่างไร

“ไม่ใช่อะไรก็จะให้นายกฯสั่งตาม ใครอยากได้อะไรผมจะต้องสั่ง ทำงานอย่างนี้ไม่ใช่ นับจากนี้ไปผมจะพูดให้น้อยลงก็แล้วกัน พูดเยอะเดี๋ยวกลายเป็นหมอตู่ไปอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงข้อเสนอให้ประชาชนสามารถตรวจเชื้อหาเชื้อไวรัสโควิดฟรี เพื่อเป็นอีกวิธีในการป้องกันการแพร่ระบาด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการเสนอแล้วโดยจะมีการใช้กฎหมายกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือยูเซ็ป (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP)ที่ เริ่มประกาศใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 โดยให้ผู้ป่วยในทุกสิทธิ์การรักษาที่เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต สามารถเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด ณ จุดเกิดเหตุได้ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงแรก ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งต้องให้หมอเป็นผู้อธิบาย ตนไม่ใช่หมอ

Avatar photo